การเมือง

พล.อ.อ.ประจิน บอก “บิ๊กป้อม” ดูแลตัวเองได้ ปม “นาฬิกาหรู” ให้เวลาหน่อย ศอตช.ขอชัดเจนค่อยว่ากัน

พล.อ.อ.ประจิน เชื่อ “บิ๊กป้อม” ดูแลตัวเองได้ ปมนาฬิกาหรู “ให้เวลาหน่อย” พ้อขอความเป็นธรรมให้นายกฯถูกวิจารณ์รัฐบาลขาลง

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนาฬิกาหรูและแหวนเพชร ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าเรื่องนี้เราต้องชัดเจนว่า อะไรเป็นนโยบายอะไรเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีสั่งการไว้ กับเรื่องทื่มีการกระแสข่าวออกมาและมีการส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบตามขั้นตอน เพราะฉะนั้นตนในฐานะที่มารับหน้าที่ดูแลงานด้านกระบวนการยุติธรรม เรื่องลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน เราก็ต้องไม่ลืมที่ต้องดูแลตัวเองด้วย นายกรัฐมนตรีก็เคยพูดไปแล้วว่า พล.อ.ประวิตร ก็สามารถดูแลตัวเองได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องขอเวลาให้ท่านหน่อย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าในฐานะที่เป็นประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จะนำเรื่องนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร เข้าที่ประชุมเพื่อตรวจสอบหรือไม่ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ขอให้มีความชัดเจนกว่านี้อีกหน่อย แล้วค่อยว่ากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเวลานี้เป็นช่วงขาลงของรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า กรณีนี้ต้องกลับไปดูข้อเท็จจริง การที่เราได้รับประเด็นมาจากคนที่เริ่มต้นข่าว เป็นสิ่งที่เป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ ตลอด 3 ปีนายกรัฐมนตรีทุ่มเททำงานเต็มที่ มีหลายเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว การเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติให้ไทยเป็นเมืองที่น่าลงทุน รวมทั้งเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่าอีกว่า แรกเริ่มที่เข้ามาในช่วงปี 2557 จีดีพีอยู่ที่ 2.1-2.2 แต่ตอนนี้ 3.8-3.9 การส่งออกที่เคยติดลบก็กลับกลายเป็นบวก ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีที่รัฐบาลนี้ทำงาน หลายสิ่งได้บังเกิดให้เห็น และอีกหลายเรื่องที่เริ่มต้นให้ด้วยดี อาทิ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม ระบบน้ำ ไฟ ระบบไอซีทีดิจิทัลก็ได้เริ่มให้แล้ว ทั้งนี้ จึงอยากให้พี่น้องสื่อมวลชนให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี นำเสนอเรื่องราวที่ถูกที่ผิดอย่างชัดเจน ไม่ให้คนในสังคมหลงประเด็นและในปีหน้า ปี 2561 จะมีอีกหลายโครงการตามมา และจะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นปฏิรูป ลดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด โดยให้การบ้านไปให้ทุกกระทรวงทำแผนงาน ว่ามีโครงการอะไรบ้าง และจะเกิดประโยชน์อะไรกับประชาชนบ้าง

“ตอนนี้กลายเป็นว่าคนนอกมองเราชัดเจน แต่คนในบางส่วนเท่านั้นที่มองเราไม่ชัดเจน แต่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจรัฐบาล มีหลายคน หลายกลุ่มที่ส่งกำลังใจมาให้รัฐบาล” พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า

 

ที่มา : มติชนออนไลน์