“แอทเซทไวส์” เกาะรถไฟฟ้า 3 สาย ปักหมุด 6 โครงการ มูลค่า 5.8 พันล้าน ตั้งเป้ายอดขาย 4.2 พันล้าน

‘แอทเซทไวส์’ เปิด ‘แอทโมซ ลาดพร้าว 15’ มูลค่า 1,400 ล้านบาท รับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-เขียว-น้ำเงิน ปี’61 ตั้งเป้าเปิด 6 โครงการ มูลค่า 5,870 ล้านบาท หวังยอดขาย 4,200 ล้านบาท โต 20% รับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาท ปี’62 จ่อเข้าตลาดหลักทรัพย์

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นศักยภาพของคอนโดมิเนียม ย่านลาดพร้าว ซึ่งมีกลุ่มเริ่มต้นวัยทำงานอยู่มาก จึงเปิดโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ แอทโมซ ลาดพร้าว 15 บนพื้นที่ 4-0-15.1 ไร่ สูง 8 ชั้น 3 อาคาร ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เพดานฝ้าสูง 2.4 เมตร จำนวน 570 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 25-36 ตารางเมตร ราคา 1.69-3.44 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 88,000 บาท/ตารางเมตร

โดยทำเลตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 15 ห่างจากถนนลาดพร้าว 800 เมตร และห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีลาดพร้าว 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่เจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด double FACILITY สุข…จนไม่ได้พักผ่อน ที่ชั้นดาดฟ้าของทั้ง 3 อาคารสามารถเชื่อมต่อกันได้ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาส 1/62 คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/63

นายกรมเชษฐ์กล่าวต่อว่า ปี 2561 บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,870 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1 บริษัทเปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ บราวน์ คอนโด ห้วยขวาง สูง 8 ชั้น จำนวน 202 ยูนิต มูลค่า 540 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ แอทโมซ ลาดพร้าว 15 สูง 8 ชั้น จำนวน 570 ยูนิต มูลค่า 1,400 ล้านบาท

และในไตรมาส 3-4 จะเปิดอีก 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการทาวน์โฮม ระดับลักเซอรี่ แกลม จำนวน 12 ยูนิต มูลค่า 230 ล้านบาท, โครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ โมดิซ คอนโด สุขุมวิท 50 สูง 27 ชั้น จำนวน 650 ยูนิต มูลค่า 1,800 ล้านบาท, โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง สูง 8 ชั้น จำนวน 600 ยูนิต มูลค่า 1,400 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม รัชดา 32 มูลค่า 500 ล้านบาท

Advertisment

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ปีละ 6 โครงการ ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 4,200 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 2560 และตั้งเป้ารับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาท จาก 8 โครงการ ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม วินน์ คอนโด สะพานใหม่, บราวน์ คอนโด รัชดา 32, วินน์ คอนโด โชคชัย 4, เคฟ คอนโด, โมดิซ คอนโด อินเตอร์เชนจ์ และบราวน์ คอนโด พหล 67 อีกทั้งมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2562

นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาด บริษัท ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิด เผยว่า ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสแรกปี 2561 มี 13,970 ยูนิต โดยในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียูนิตเปิดขายใหม่ทั้งหมด 55,000-60,000 ยูนิต เป็นสัดส่วนใกล้เคียงกับปี 2560 ซึ่งในพื้นที่ย่านลาดพร้าวตอนต้น ตั้งแต่ซอยลาดพร้าว 1-23 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ไม่มาก มียูนิตที่ขายไปแล้วกว่า 81-94% หรือประมาณ 2,500-3,000 ยูนิต ปัจจุบันมียูนิตเหลือจำนวนไม่มาก

“อีกทั้งบริเวณพื้นที่โดยรอบเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง และถึงแม้ว่าราคาขายเฉลี่ยจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6-7% ต่อปี โดยราคาโครงการคอนโดมิเนียมทำเลติดถนนเฉลี่ย 150,000 บาท/ตารางเมตร และทำเลในซอยเฉลี่ย 80,000-90,000 บาท/ตารางเมตร

แต่ด้วยปัจจัยในเรื่องความเป็นชุมชนดั้งเดิม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และรถไฟฟ้า จำนวน 3 สาย คือ สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง, สายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี จึงทำให้โครงการที่เปิดใหม่ในย่านนี้จะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี”

Advertisment