“เมเจอร์” เปิดใหม่ MARU 2 ทำเล “ลาดพร้าว-เอกมัย” คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เริ่ม 3.79 ล้าน

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ มารุ (MARU) ออกแบบเป็นคอนโดฯ ไฮไรส์ สูง 30 ชั้น จำนวนยูนิตไม่มาก ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท

รายละเอียดทำเลลาดพร้าว 15 มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท และทำเลเอกมัย มูลค่าโครงการ 2,522 ล้านบาท เฉลี่ยราคาตารางเมตรละ 1.8 แสนบาท

“ปัจจุบันลูกค้าต่างชาติยังให้ความสนใจซื้อคอนโดฯ ในไทยเพื่อการลงทุน โดยทำเลสุขุมวิทยอดนิยม ขณะที่ทำเลลาดพร้าว เอกมัย ต่างชาติเริ่มรู้จัก โดยราคาห้องละไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือตารางเมตรละ 1.5 แสนบาทขึ้นไปมีดีมานด์ต่อเนื่อง โดยมีเอเจนต์ติดต่อขอจองซื้อเป็นล็อต บริษัทตั้งเป้ายอดขายกลุ่มนี้ 20-30% ในขณะที่มารุ เอกมัย เอเย่นต์ขอซื้อถึง 50% แต่อยากเก็บไว้ขายลูกค้าคนไทยมากกว่า เตรียมเปิดขายเป็นทางการปลาย ก.ย.นี้

สำหรับยอดปฏิเสธสินเชื่อ เมเจอร์ฯ แทบไม่มีเลยเนื่องจากจับตลาดไฮเอนด์จนถึงลักเซอรี่ ราคาเกิน 1 แสนบาท/ตารางเมตร ซึ่งตลาดคอนโดฯ ผ่านจุดต่ำสุด โดยต้นปีที่แล้วมีภาวะชะลอตัวไปบ้าง ดีเวลอปเปอร์ก็มีการเปิดตัวโครงการใหม่ มองว่าเพราะเป็นไทมิ่งที่กำลังซื้อเริ่มขยับตัวเพื่อรองรับฤดูการขาย

ก่อนหน้านี้ บริษัทเปิดขายคอนโดฯ มิวนิค สุขุมวิท 23 ลูกค้าต่างชาติให้ความสนใจ แบบ 1 ห้องนอนขายหมดแล้ว เปิดขายเมื่อกลางเดือนกันยายน 2559 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70%

ช่วงครึ่งปีหลัง บรรยากาศการซื้อน่าจะดีขึ้น โดยครึ่งปีแรกเปิดเพียงโครงการเดียว รอทยอยเปิดอีก 7 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง แบ่งเป็นแบรนด์มารุ 2 โครงการ , เมทริส 3 โครงการ และแบรนด์มาเอสโตร 3 โครงการ มูลค่ารวมกัน 11,000 ล้านบาท คาดว่าทำยอดพรีเซลได้ 7,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้

โดยปลายปีนี้เตรียมโอนคอนโด marque สุขุมวิท 6,000 กว่าล้านบาท และ เอ็ม จตุจักรอีก 4,000 กว่าล้านบาท สำหรับโครงการใหม่ๆ บริษัทเริ่มเจรจาจัดซื้อที่ดิน แต่การเปิดตัวเป็นแผนธุรกิจปีหน้า

ดร.สุริยาตอบคำถามถึงรัฐบาลปรับประเมินจีดีพี 3.5% ว่าไม่กล้าคอมเมนต์เยอะ อสังหาภาพแย่มาก มองรายบริษัทดีกว่า เช่น อาจมีปัญหาภายใน โรลอัพทำให้ดูน่ากลัว แต่ภาพรวมศก.ไม่ได้แย่มาก แบงก์ค่นอข้างเข้มงวด ทั้งสายเรา และสายผู้ซื้อ จะทำโครงการกว่าแบงก์จะปล่อยเงินก็เข้มงวดเหมือนกัน ต้องทำคุณธรรม ดิวดีลิเจนซ์ ต้องทำการบ้านมาแล้วระดับหนึ่ง ส่วนโพสต์ไฟแนนซ์แบงก์ก็เข้มงวดเช่นกัน

“ตลาดกระทบน่าจะเป็นกลุ่มคอนโด 1 ล้านต้นๆ มียอดปฏิเสธสินเชื่อ ทำให้ภาพ 4 เดือนหลังภาพตลาดปลอดภัยคือตารางเมตรละ 1.5 แสนบาทบวกลบ ไซซ์ 30 ตรม. ราคา 4-5 ล้านบาท ยังพอซื้อได้เป็นทรัพย์วิน เพราะมีแวลุเพิ่มขึนถ้าเลือกทำเลที่ถูกต้อง ดีเวลอเปอร์เชื่อถือได้ โปรดักต์โอเค”

ทั้งนี้ คอนโดราคาตารางเมตรละ 1.5 แสนบาทบวกลบ ซัพพลายจะโอเวอร์ในบางโลเกชัน โดยทำเลสุขุมวิทมีความปลอดภัยที่สุด เพราะลูกค้าต่างชาติก็รู้จักคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะช่วงตอนกลาง อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย เลยไปถึงบางนาด้วยซ้ำ

ในขณะที่ทำเลลาดพร้าว อ่อนนุช มีคอนโดเยอะ เพราะที่ดินแพง การทำโครงการตารางเมตรละแสนบาทต้นๆ ก็เหนื่อยแล้ว

“สี่เดือนหลัง ถ้าไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์จากการเมือง น่าจะไปได้ดี โดยไตรมาสสี่ในภาพรวมยังถือว่าดี กำลังซื้อต่างชาติ ย้อน 5 ปีที่แล้วมีกลุ่มสิงคโปร์ แต่หายไปในช่วง 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้เริ่มกลับมา ทั้งสิงคโปร์ จีน ทำเลสุขุมวิท ประตูน้ำก็น่าสนใจเพราะแทรฟฟิกเยอะอยู่แล้ว ข่าวล่าสุดตารางวาละ 2 ล้านบาท ที่ดินเหลือแต่แพงมาก

ถามถึงการลงทุนใหม่ ดร.สุริยากล่าวว่า มุมมองดีเวลอปเปอร์ 4 เดือนที่เหลือเราเดินหน้า ไม่เกียร์ว่าง แต่ระมัดระวัง ไม่ได้มองโลกแง่ดีมาก ฟังเสียงน้อยหน่อย เพราะแม้มีภาพเศรษฐกิจติดขัดแต่เรายังขายได้ โดยอัตราการขายสามารถขายได้ 40% ในวันเปิดพรีเซล สามารถปิดการขายได้ก่อนสร้างเสร็จ

การปรับราคา จากรอบวีไอพี เซลออฟฟิศ ตามคืบหน้าการก่อสร้าง จากต้นโครงการจนถึงปิดการขายคาดว่าราคาปรับเพิ่ม 15%

ส่วนเรื่องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ใจจริงอยากได้ไม่เกิน 30 กก. ทั้งเพศผู้เพศเมีย ส่วนโกลเด้นรีทีฟเวอร์น่าจะตัวใหญ่กว่า หมาไทยหมาเทศมีเสียงเห่า

“คอนโดเราเลี้ยยงสัตว์ได้ แต่เจ้าของสัตว์ก็ต้องมีความรับผิดชอบ เช่น มลพิษทางเสียง ทำธุระต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อย สื่อสารออกไปคนที่มาซื้อแม้ไม่ได้เลี้ยงสัตว์แต่ก็ใจกว้างรับได้”

“ตัวอย่าง คอนโดออกัสตัน ซอยสุขุมวิท 22 คนญี่ปุ่นเช่าเยอะมาก ช่วงเย็นๆ จูงหมาเดินเล่นเป็นโซไซตี้ที่น่ารัก และอยากให้เกิดในโครงการของเรา”

และ “ทุกโครงการเลี้ยงหมาได้หมด ขึ้นกับลูกบ้าน กฎระเบียบนิติบุคคล ระบุไว้อยู่แล้วว่าเป็น Category ตอนนี้คนในเมืองทำงานหนัก แต่งงานช้า มีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน เราจึงอยากให้ความสะดวกกับคนกลุ่มนี้ด้วย” ดร.สุริยากล่าว