นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า ภารกิจสำคัญที่จะต้องเข้ามาดำเนินการคือ การดูแลและดำเนินการจ่ายไฟฟ้าให้ประชาชนในพื้นที่ที่ดูแลคือ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Energy for city life, Energize Smart Living” หรือ “พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร”
โดยมีโครงการที่เราจะดำเนินการทั้งการเปลี่ยนสายอากาศเป็นสายใต้ดินในระยะ 5 ปี (2560-2564), การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการทำงานของระบบไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Smart metro Grid รวมถึงการพัฒนาการให้บริการภายใต้วิสัยทัศน์ smart Service Station เป็นการช่วยให้การให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัลต่างๆ เช่น แอปพลิเคชัน MEA Smart Life ที่จะช่วยให้ประชาชานสามารถจ่ายค่าไฟฟ้าผ่านช่องทางนี้ได้ มีข้อมูลการใช้ไฟฟ้าแสดงให้ด้วย โดยที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สาขาของ กฟน.อีกต่อไป
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
ผู้ว่า กฟน. กล่าวอีกว่า ในช่วงปีใหม่นี้ กฟน.มีโครงการ “Smart Street Light” ระบบไฟฟ้าสาธารณะเพื่อชุมชนเมือง โดยเริ่มต้นติดตั้งในพื้นที่คลองแสนแสบรวม 75 ชุมชน ระยะทาง 1 กม.ก่อน สำหรับคุณสมบัติเด่นของโครงการนี้คือ เราจะติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแบบ Smart ไว้กับไฟส่องสว่างสาธารณะ และปรับปรุงโปรแกรมส่งข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเกิดเหตุไฟชำรุด ไม่จำเป็นต้องรอให้มีผู้แจ้งหรือส่งช่างไปตรวจสอบ ตัว smart Meter ที่ติดอยู่จะแจ้งข้อมูลกลับมาที่สำนักงานทันทีว่ามีไฟดวงไหนที่ชำรุดเสียหาย เราก็จะส่งช่างไปดำเนินการซ่อมแซมได้อย่างถูกจุด คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปีใหม่นี้
สำหรับในปี 2562 กฟน.ได้รับจัดสรรงบลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบสำหรับนำสายไฟฟ้าลงดินประมาณ 20,000 ล้านบาท, ปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าและเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพประมาณ 10,000 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นงบประมาณสำหรับพัฒนาระบบไอทีและจัดซื้อเครื่องมือก่อสร้างและยานพาหนะ ปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ส่วนแผนการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินนั้น มีระยะดำเนินการทั้งสิ้น 5 ปี (2560-2564) ระยะทางที่ต้องเปลี่ยน 214 กม. ต้องใช้งบประมาณรวมกว่า 80,000 ล้านบาท สำหรับความคืบหน้าในปัจจุบัน มีโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินที่ดำเนินการแล้วเสร็จ รวมระยะทาง 45.6 กิโลเมตร ประกอบด้วย โครงการถนนสีลม, โครงการปทุมวัน, โครงการจิตรลดา, โครงการพหลโยธิน, โครงการพญาไท, โครงการสุขุมวิท, โครงการปทุมวัน จิตรลดา และพญาไท
ส่วนระยะทางที่เหลืออีก 174 กม. ในปี 2562 จะดำเนินการในถ.จรัญสนิทวงศ์ ช่วงตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งได้ผู้รับเหมาแล้ว ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท, ถ.พระราม 4, ถ.พระราม 3 เชื่อมกับ ถ.นราธิวาสราชนครินทร์, ถ.ช่องนนทรี และ ถ.รัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งจะทยอยกันมาเรื่อยๆ
ขณะที่ในพื้นที่ จ.นนทบุรีและสมุทรปราการ ที่ กฟน.ดูแลนั้น เบื้องต้นเส้นทางที่คาดว่าจะสามารถดำเนินการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินได้นั้นประกอบด้วย 1.ช่วงแจ้งวัฒนะ – ติวานนท์ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างประสานงานกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ 2.ช่วงสุขุมวิท 101 – บางปู – เทพารักษ์ เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ก่อสร้างเสร็จแล้ว กฟน.ต้องทำกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเอง จึงอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบโครงการอยู่