“ศักดิ์สยาม” ตั้งบอร์ดโลจิสติกส์ดู EEC เร่งรถไฟมอบพื้นที่ไฮสปีดซี.พี.ให้ทันเซ็นสัญญาส.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมระหว่างกระทรวงคมนาคมกับคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นำโดยนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี โดยมีข้อห่วงใย 3 ข้อคือ

1. การประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 290,000 ล้านบาท ที่มีกองทัพเรือ (ทร.) เป็นเจ้าของโครงการ อยู่ในกระบวนการรอศาลปกครองตัดสินหลังกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด (กลุ่มซี.พี.) ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ก็ได้สอบถามในที่ประชุมว่าจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ ก็ได้รับรายงานว่าไม่มีปัญหาอะไร

2. โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ท่าเทียบเรือ F มูลค่าโครงการ 84,000 ล้านบาท มีการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นเจ้าของโครงการ หลังกลุ่มกิจการร่วมค้า NPC ตกรอบ เนื่องจากส่งเอกสารไม่ครบ และใช้สิทธิ์อุทธรณ์ต่อคณะอนุกรรมการอุทธรณ์ของคณะกรรมการอีอีซี จะต้องรอมติที่ประชุมคณะกรรมการอีอีซีก่อนว่าจะตัดสินอย่างไร เพราะคณะอนุกรรมการฯมีมติไม่รับคำอุทธรณ์ หากไม่รับคำร้อง เอกชนก็สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องศาลปกครองเหมือนกรณีสนามบินอู่ตะเภาได้ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ

และ 3.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. เงินลงทุน 224,544 ล้านบาท มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นเจ้าของโครงการ ก็มีข้อห่วงใยในเรื่องการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างและพื้นที่เวนคืน ซึ่งนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่า ร.ฟ.ท.ก็กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมในทุกประเด็นแล้ว ส่วนงบประมาณ คณะกรรมการอีอีซีก็กำกับดูแลทุกอย่างเรียบร้อย แต่ก็เน้นย้ำไปว่าให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ อย่าให้มีปัญหา ยืนยันว่าการลงนามจะสามารถทำได้ภายในเดือน ส.ค.นี้

นอกจากนี้ นายคณิศยังพูดถึงการบริหารโครงการต่างๆ โดยแนะนำให้มีการตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่องการพัฒนาระบบบขนส่งทุกโหมดทั่วประเทศ จะนัดประชุมภายในเดือนส.ค.นี้ เพราะในอนาคตรัฐบาลจะพัฒนารูปแบบโครงการของอีอีซีไปในภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคอีสาน

สำหรับคณะกรรมการชุดดังล่าว เบื้องต้น จะมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน มีคณะกรรมการอีอีซีและสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) คุยกันก่อนว่าแผนการพัฒนาโครงการขนส่งของประเทศมีอะไรบ้าง และจะทำให้การใช้ประโยชน์เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างไรได้บ้าง เพราะอย่าลืมเรามีโครงการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีอีกหลายโครงการ ต่อไปจะมีการขยับขยายออกไปหน่วยงานอื่น