“ลลิล” โตสวนตลาด ท่องคาถา year of competitiveness ตั้งเป้าปีหนูโต 13%  

ลลิลฯ รีดีไซน์บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์วางแผนเปิดตัวใหม่ 11 โครงการ เผยไตรมาส 1/63 ส่งราคาต่ำ 3 ล้านบุกตลาดรับมาตรการรัฐ “บ้านดีมีดาวน์”

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จทำยอดรับรู้รายได้ปี 2562 ได้ตามเป้าที่ 4640 ล้านบาท เติบโต 13.2% เทียบกับปี 2541

ปี 2563 วางแผนลงทุนพัฒนาโครงการแนวราบในช่วงราคา 2-6 ล้านบาท จำนวน 9-11 โครงการ มูลค่ารวม 5,000-5,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 6รอบวัน00 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 5,250 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 13%

ทั้งนี้ ต้นปีมีปัจจัยเสี่ยงอุบัติใหม่จากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน รวมทั้งการเมืองภายในประเทศ แผนเปิดตัวโครงการจึงป้องกันความเสี่ยงด้วยการทยอยเปิดเฉลี่ยเดือนละ 1 โครงการ

 “สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ไทย เมื่อมองจากปัจจัยภายนอกยังอึมครึม ทำให้การทำธุรกิจยากขึ้น แต่ยังมีตัวช่วยจากมาตรการรัฐ 2 มาตรการคือ ลดค่าโอน-จำนอง 3% เหลือ 0.01% กับมาตรการบ้านดีมีดาวน์รัฐช่วยจ่ายดาวน์ 50,000 บาท คาดว่ามีผลกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และทำให้สินค้าบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ของบริษัทเติบโตได้ 2-4% ในปีนี้”

Advertisment

นายไชยยันต์กล่าวว่า พอร์ตใหญ่เป็นบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้าน สัดส่วน 60-70% จากเดิมบริษัททำโปรโมชันฟรีโอน-จำนองอยู่แล้ว เมื่อรัฐบาลยื่นมือมาช่วย ค่าการตลาด 3% มีการจัดโปรโมชันคืนให้กับลูกค้า อาจเลือกเป็นส่วนลดหรือของแถมตามเงื่อนไขที่กำหนด

สำหรับเทรนด์ธุรกิจอสังหาฯ นายไชยยันต์มองว่า 2563 เป็น Year of Competitiveness ดีมานด์ในตลาดมีจำกัดทำให้การแข่งขันสูง ถ้าไม่เก่งจริง วิจัยตลาดไม่ดี ยิงไม่ตรงเป้า มีต้นทุนแพง หรือยังไม่ชำนาญเพียงพอที่จะวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โลเคชั่น หรือเพิ่งเริ่มต้นทำ ซึ่งจะมีต้นทุนแพงกว่ารายอื่น ก็จะทำให้แพ้ในการแข่งขัน

“ถ้าคู่แข่งขาย 2.3 ล้าน คุณมาขาย 2.9 ล้านอยู่คนเดียว เดี๋ยวคุณก็เรียบร้อย ไม่ใช่แปลว่าคุณมาทำแล้วมันจะชนะ ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินคุณ ผมบอกทีมงานตลอดว่าคุณทำธุรกิจ ไม่ใช่บริษัทตัดสินนะ ลูกค้าตัดสิน ซึ่งเราไม่กังวล เราคิดว่าเรารู้จริงลูกค้า รู้จริงโลเคชั่น รู้จริงตลาด” นายไชยยันต์ กล่าว

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า แบรนด์ธงปีนี้ยังโฟกัส Lalin Town โดยใช้แบรนด์ทาวน์เฮาส์ “Lio” และแบรนด์บ้านเดี่ยว “Lanceo” แต่มีการปรับคอนเซ็ปชวลดีไซน์ใหม่ จากเดิมแนว National Organic ปรับเป็นสไตล์ Modern Geometry ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เจาะตลาดผู้ซื้อคนรุ่นใหม่ที่ชอบสไตล์โมเดิร์นเฟรนช์

Advertisment

“สัดส่วน 80-90% เน้นลงทุนใน กทม.-ปริมณฑลเป็นหลัก เรามองแล้วว่าเป็นตลาดที่มีดีมานด์ต่อเนื่องแม้ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจในประเทศบ้างเล็กน้อย ส่วนตลาดต่างจังหวัดไม่ได้ทิ้ง เรามีทีม Business Development กับ Research Development ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องในหัวเมืองใหญ่และหัวเมืองรอง แต่คิดว่าปีนี้ให้ความสำคัญน้อยกว่าตลาด กทม.-ปริมณฑล”

ขณะเดียวกัน ปีนี้บริษัทเน้นให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ After Sales Services มีการจัดอีเวนต์สร้างความสัมพันธ์ให้กับลูกบ้าน รวมทั้งจัดกิจกรรม CRM อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี