“การบินไทย” ขอคมนาคมยก-ลดหนี้-คงสิทธิพิเศษสัญญาเช่าจนกว่าจะครบดีล

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้รับแต่งตั้งเป็นหนึ่งในคณะทำงานชุด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองเรื่องแผนฟื้นฟู บมจ.การบินไทยให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุมครั้งล่าสุดได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ซึ่งเคยกำกับดูแลการบินไทยไปพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ แม้จะเปลี่ยนสภาพเป็นบริษัทเอกชน มิใช่รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมแล้วก็ตาม แต่ยังมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่และยังคงเป็นสายการบินแห่งชาติอยู่

โดยการบินไทยได้ร้องขอความช่วยเหลือ คือ 1.ขอให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ผูกพันสัญญาต่อกันช่วยยกหนี้ให้ เช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือทอท. กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บจ.วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) 2. หากไม่สามารถยกหนี้ได้ ขอให้ลดภาระหนี้ลง และ 3. ขอให้คงสัญญาที่ยังไม่ครบกำหนดให้คงสิทธิเดิมต่อไปจนกว่าสิ้นสุดสัญญา

“ได้ให้คู่สัญญาการบินไทยไปพิจารณาคำร้องจะให้การช่วยเหลือได้มากน้อยเพียงใด ให้นโยบายว่าการช่วยเหลือ ต้องอยู่บนหลักการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะการบินไทยมิใช่รัฐวิสาหกิจแล้ว ซึ่งสัญญาบางงานที่เคยดำเนินการร่วมกันในฐานะรัฐวิสาหกิจอาจต้องปรับมาใช้ตามพ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน (PPP) และการช่วยเหลือจะต้องคำนึงถึงการไม่เลือกปฏิบัติตามหลักการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ด้วย เพราะถ้าให้การบินไทยแล้ว ต้องให้สายการบินอื่นด้วย ให้เกิดความเท่าเทียมกัน”

ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวทั้งหมดจะแล้วเสร็จก่อนกำหนดที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการการบินไทยในวันที่ 17 สิงหาคมนี้หรือไม่ เนื่องจากสัญญามีจำนวนมาก อีกทั้งบางเรื่องเช่นการพิจารณายกหรือลดหนี้ให้นั้น ทางทอท.ก็ต้องเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ก่อน จึงจะนำส่งเรื่องมายังกระทรวงคมนาคม


“เราพยายามที่จะช่วยเท่าที่ทำได้ ถ้าอันไหนทำไม่ได้จริงๆก็ต้องยอมรับ เพราะตอนนี้ทุกคนได้รับผลกระทบเรื่องโควิด-19 กันหมด ซึ่งทอท.เองก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย รายได้หายไปเยอะ แล้วต้องมายกหนี้ให้อีกจะไหวหรือไม่” นายชัยวัฒน์ กล่าว