สัญญาณบวก ก.ค. 2563 ยอดเปิดใหม่ “คอนโด” แซงทาวน์เฮาส์รอบ 6 เดือน

ตึกกลางใจเมือง

สัญญาณบวก กรกฎาคม 2563 ยอดเปิดใหม่ “คอนโด” แซงทาวน์เฮาส์ในรอบ 6 เดือนนับแต่มีโรคระบาด

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคม 2563 อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยในเดือนนี้ กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยมีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 36 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 จำนวน 12 โครงการ อีกทั้งจำนวนหน่วยขายและมูลค่าโครงการก็เพิ่มขึ้นตาม ซึ่งลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้ง 36 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายทั้งหมด 10,265 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 37,253 ล้านบาท

จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 10,265 หน่วย ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้กลับมาเป็นอาคารชุดอีกครั้ง หลังจากที่ถูกทาวน์เฮ้าส์แซงหน้าติดต่อกันมาเป็นเวลา 6 เดือน โดยอาคารชุดมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 4,624 หน่วย (45.0%) รองลงมา คือ ทาวน์เฮาส์ 3,480 หน่วย (33.9%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 1,202 หน่วย (11.7%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก ซึ่งได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และอาคารชุดกับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่าจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยทุกประเภทเพิ่มขึ้น

มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนสิงหาคม 2563 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 37,253 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 16,675 ล้านบาท (เดือนกรกฎาคม 2563 มีมูลค่า 20,579 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 81% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่าสินค้าที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีระดับราคาปานกลางค่อนข้างถูกเป็นสำคัญ

จากปัญหาวิกฤตโควิด-19 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกมาหลายเดือน และในเดือนนี้ผู้ประกอบการหลายรายที่มีความพร้อม จึงได้ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น ทำให้ในเดือนนี้ มีจำนวนโครงการ จำนวนหน่วยขาย และมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงประมาณ -19.7%  เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้สินค้าส่วนใหญ่ที่ออกสู่ตลาดมีราคาขายไม่เกิน 3 ล้านบาท มากถึง  6,218 หน่วย หรือประมาณ 60.6% ของหน่วยขายทั้งตลาด

จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน ซึ่งราคาขายของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 3.629 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 4.522 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงค่อนข้างน้อยเป็นสำคัญ

ในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่าในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 3 โครงการ ส่วนที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) มีจำนวน 26 โครงการ เช่น ถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนลาดพร้าว ถนนรามอินทรา ถนนบางนา-ตราด ถนนเทพารักษ์  ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนเพชรเกษม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีอีก 7 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงานและสถาบันการศึกษาในบริเวณนั้น เช่น ย่านไทรน้อย เศรษฐกิจ และคลองหลวง เป็นต้น