“เจริญ” รุกคอมมิวนิตี้มอลล์รัชโยธินรับสายสีเขียว

“เจริญ” ทุ่ม 8,200 ล้าน รุกธุรกิจรีเทล เดินหน้ารีโนเวตขยายโครงการใหม่ บุกหนักตลาดนัดชุมชนแนวใหม่ ทุ่ม 3,500 ล้าน ปักหมุดบางพลี-พระราม 2 ติดโลตัส ปรับโฉมบ็อกซ์ สเปซ รัชโยธิน ผุดคอมมิวนิตี้มอลล์ รับสายสีเขียว

นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ผู้พัฒนาพื้นที่รีเทลและอสังหาเชิงท่องเที่ยว “เอเชียทีค” ธุรกิจในเครือของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า หลังจากปี 2560 ใช้เงินลงทุน 4,700 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผนแล้ว ในปี 2561-2562 มีแผนพัฒนาโครงการเพิ่ม จะใช้เงินลงทุนรวม 8,200 ล้านบาท

โดยวงเงิน 4,700 ล้านบาท จะใช้ปรับพื้นที่และก่อสร้างโครงการเดิม จะแล้วเสร็จปีหน้า ได้แก่ พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน 50 ล้านบาท, พันธุ์ทิพย์ บางกะปิ 50 ล้านบาท และบ็อกซ์ สเปซ รัชโยธิน จะเปลี่ยนเป็น คอมมิวนิตี้ มอลล์ แนวใหม่ วงเงิน100 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดบริการต้นปีหน้า รองรับแหล่งงานและรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต

พร้อมกับเดินหน้าก่อสร้างคอมมิวนิตี้มอลล์ที่ลาซาล วงเงิน 500 ล้านบาท จะเปิดบริการไตรมาสที่ 1-2 ของปี 2561 ปรับปรุงศูนย์การค้า โอ.พี.การ์เด้นท์ ตรงเจริญกรุง 36 สร้างศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อ วงเงิน 4,000 ล้านบาท เปิดบริการปลายปี 2561 รับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค

นอกจากนี้จะให้ความสำคัญกับธุรกิจตลาดนัดมากขึ้น จะลงทุน 3,500 ล้านบาท เปิดตลาดนัดตะวันนา 2 แห่ง คือ บางพลี ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เนื้อที่ 30 ไร่ วงเงิน 1,000 ล้านบาท และพระราม 2 ย่านถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้กับห้างสรรพสินค้าโลตัส เนื้อที่ 30 ไร่ วงเงิน 2,500 ล้านบาท จะเปิดบริการปี 2562 เป็นตลาดนัดรูปแบบใหม่ผสมผสานระหว่างคอมมิวนิตี้มอลล์กับตลาดนัด เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในรัศมี 3-5 กม.

“ตั้งเป้า 5 ปีจะพัฒนาโครงการปัจจุบัน 10 โครงการ มีพื้นที่รวม 3 แสนตารางเมตร เป็น 20 โครงการ ให้มีพื้นที่รวม 1 ล้านตารางเมตร หลังจากพัฒนา 5 ปีไปแล้วจะเริ่มขยายออกไปยังต่างจังหวัด เช่น พัทยาและเชียงใหม่ โดยเลือกทำเลในเมืองที่มีพื้นที่จำนวนมากเพื่อรองรับการพัฒนา ส่วนการขยายเอเชียทีคแห่งที่ 2 ย่านเจริญนคร ฝั่งตรงข้ามกับโครงการปัจจุบัน อยู่ระหว่างการหารือของคณะกรรมการบริษัทถึงแผนการลงทุน” นายณภัทรกล่าวและว่า ผลประกอบการปี 2560 มีรายได้ 3,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมากว่า 15% โดยทั้ง 10 โครงการมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 200,000 คน/วัน เป็น 250,000 คน/วัน ในปี 2561 ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 3,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 17%