“กรมทางหลวง” เร่งศึกษาสร้างมอเตอร์เวย์ช่วงท่าเรือแหลมฉบัง-ปราจีนบุรี ยกระดับคมนาคมขนส่งภาคตะวันออกหนุนอีอีซี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทางหลวง (ทล.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นขั้นตอนการสำรวจและออกแบบโครงการ (การประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1) โครงการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายชลบุรี – หนองคาย ตอนชลบุรี (ท่าเรือแหลมฉบัง) – ปราจีนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 359) ตอน 1

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2560 ห้องประชุมพัฒนา คอนเวนชั่น พัฒนากอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต รีสอร์ท อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอศรีราชา ให้เกียรติเป็นประธานเปิด
ภายใต้โครงการศึกษาจัดทำแผนกลยุทธ์การพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของประเทศไทย เพื่อนำเสนอสาระสำคัญ วัตถุประสงค์ ขอบเขตการดำเนินการ แผนการดำเนินโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้สนใจทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษา ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนและสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี เข้าร่วมการประชุม

โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายชลบุรี – หนองคาย เป็นหนึ่งในแนวเส้นทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่ถูกบรรจุในแผนพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของประเทศไทย ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540

เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ตามแนวเศรษฐกิจเหนือ – ใต้ รองรับการขนส่งสินค้าและเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กรมทางหลวงจึงได้จ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามแผนกลยุทธ์การพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของประเทศไทย

จากผลการศึกษาพบว่า ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายชลบุรี –หนองคาย ตอน ชลบุรี (ท่าเรือแหลมฉบัง) – ปราจีนบุรี (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 359) เป็นเส้นทางที่มีศักยภาพสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายโลจิสติกส์ของประเทศ รองปริมาณการคมนาคมขนส่งสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ตามแนวเส้นทาง สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางหลวงสายหลัก

ดังนั้นกรมทางหลวงจึงได้ดำเนินการจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายชลบุรี – หนองคาย ตอน ชลบุรี (ท่าเรือแหลมฉบัง) – ปราจีนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 359) ตอน 1 ออกเป็น 2 ส่วน

โดยตอน 1 ส่วนที่ 1 แบ่งพื้นที่ศึกษาออกเป็น 2 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงที่ 1 กม. 0+000 บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ถึง กม. 19+500 ระยะทาง 195 กิโลเมตร

และช่วงที่ 2 กม. 0+000 บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ถึงท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 (super Line) ระยะทาง 0.95 กิโลเมตร โดยมี บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษาโครงการ

และตอน 1 ส่วนที่ 2 มีจุดเริ่มต้นบริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 331 กม.19+500 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถึง ทางหลวงหมายเลข 3340 กม.64+000 บริเวณอ.บ่อทอง จ.ชลบุรี โดยมี บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด บริษัท วิศวกรรมธรณีและรากฐาน จำกัด บริษัท เอสคิว อาร์คีเต็ด แอนด์ แปลนเนอร์ จำกัด และบริษัท ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษาโครงการ ครอบคลุมพื้นที่ศึกษาจำนวน 5 อำเภอ ใน จ.ชลบุรี ได้แก่ อ.บางละมุง อ.ศรีราชา อ.หนองใหญ่ อ.บ้านบึง และ อ.บ่อทอง

สำหรับขอบเขตการศึกษาโครงการครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.งานสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานทางด้านวิศวกรรมและจราจร 2.งานออกแบบรายละเอียด (Detailed Design) 3.งานด้านสิ่งแวดล้อม 4.งานการมีส่วนร่วมของประชาชน และ 5.งานสำรวจอสังหาริมทรัพย์และข้อมูลเพื่อการเวนคืน

เมื่อการพัฒนาเส้นทางนี้แล้วเสร็จ จะช่วยให้การเดินทางและขนส่งสินค้าตามแนวเส้นทางมีความสะดวก รวดเร็ว ลดอุบัติเหตุ และช่วยบรรเทาปัญหาจราจรคับคั่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงทางแยกต่างระดับหนองขาม – ท่าเรือแหลมฉบัง และในแนวทางหลวงหมายเลข 3 (ถ.สุขุมวิท) ช่วงทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง – คลองบางละมุง ที่จะมีปริมาณจราจรเพิ่มมากขึ้นตามการเจริญเติบโตของประเทศในอนาคต ที่สำคัญยังเป็นเส้นทางที่รองรับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเชื่อมต่อการค้าการลงทุนและการเดินทางระหว่างประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต เป็นการยกระดับการคมนาคมขนส่งของภาคตะวันออก ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนด้วย

ภายหลังการประชุมครั้งนี้ กรมทางหลวง จะดำเนินการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง