ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากการเป็นสิวนั้น นอกจากจะทำให้ผิวไม่เรียบเนียนแล้วยังทิ้งรอยเอาไว้บนผิวหน้าของเราอีกด้วยครับ แต่รอยเหล่านั้นสามารถรักษาครบจบได้ด้วย “เลเซอร์รอยสิว” โดยไม่ต้องเสียเวลากังวล
ในปัจจุบัน เลเซอร์รอยสิวนั้นเป็นที่นิยมเพราะสามารถรักษารอยสิวแบบให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าการใช้ครีมทาหน้าหรือการทำทรีตเมนต์ โดยในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์รอยสิว ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเลเซอร์ ชนิดของเครื่อง รวมถึงการเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังทำ เป็นต้น
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
ประเภทของรอยสิว
หลังจากที่สิวยุบหรือหายจากการอักเสบแล้วก็มักจะทิ้งร่องรอยเอาไว้บนผิว โดยรอยอาจจะแย่งได้เป็นรอยสีแดงและรอยสีดำครับ ซึ่งรอยทั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อแตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. รอยแดงจากสิว
รอยแดงจากสิวมักเกิดจากการอักเสบของผิวบริเวณที่เป็นสิว อาจมีสีชมพูจางๆ ไปจนถึงแดงคล้ำได้ครับ โดยรอยแดงมักพบได้บ่อยมากกว่ารอยดำ
2. รอยดำจากสิว
รอยดำจากสิวคือรอยสีน้ำตาลที่เกิดหลังจากสิวอักเสบยุบลงไปแล้ว มักเกิดกับผู้ที่แกะสิว เนื่องจากพอแกะสิวก็จะกลายเป็นแผลถลอกแล้วจึงกลายเป็นรอยดำเข้มขึ้นมาหรืออาจเกิดจากผู้ที่เป็นรอยแดงหลังจากเกิดสิวอักเสบแต่ปล่อยทิ้งเอาไว้ ไม่รักษาอย่างถูกวิธี
รู้ทันสาเหตุของรอยสิว
สาเหตุของรอยแดงสิว
สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแดงจากสิวคือเมื่อสิวเกิดการอักเสบ เส้นเลือดฝอยรอบๆ บริเวณนั้นจะเกิดการขยายตัว ทำให้มีอาการบวมและแดง ซึ่งบางที หลังจากสิวอักเสบยุบตัวลงแล้ว ผิวก็ยังอาจมีสีแดงอยู่เพราะเส้นเลือดฝอยยังคงไม่ยุบลงครับ
สาเหตุของรอยดำสิว
การอักเสบของสิวก็เป็นสาเหตุให้เกิดรอยดำเช่นกัน เนื่องจากไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสี (Melanin) ที่ใต้ชั้นผิวจากเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) โดยเฉพาะกับผิวบริเวณที่มีการแกะ เกา จนเป็นแผลถลอก ผิวจะซ่อมแซมตัวเอง ทำให้เราเห็นเป็นจุดสีน้ำตาลเด่นชัดครับ
รอยสิวรักษาได้ด้วย ‘เลเซอร์รอยสิว’
หลายคนอาจเครียดกับปัญหารอยสิว กลัวว่าจะรักษาได้ยาก รักษาไม่หาย หรือใช้ระยะเวลานาน แต่ “เลเซอร์รอยสิว” สามารถขจัดปัญหาเหล่านั้นได้ครับ
การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาปัญหารอยสิวคือการปล่อยพลังงานเลเซอร์ลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อรักษาปัญหาของรอยจากภายในครับ ซึ่งปัจจุบัน เลเซอร์สิวได้รับความนิยมเพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะเวลาสั้นๆ รวมถึงมีประเภทของเลเซอร์ให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับปัญหาหลายรูปแบบ หากสนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลเซอร์สิว คลิกเลย เลเซอร์รอยสิว
ประเภทของเลเซอร์รอยสิว
1. เลเซอร์รอยแดง
ใช้เลเซอร์ชนิดเลเซอร์หลอดเลือด (Vascular Laser) ในการรักษา ซึ่งเลเซอร์รอยสิวชนิดนี้ทำงานโดยการปล่อยพลังงานลงบนผิวเพื่อดูดซับสีแดงของเม็ดเลือดแล้วจึงเกิดเป็นความร้อนขึ้น โดยความร้อนนี้จะส่งผลเจาะจึงในเส้นเลือดเท่านั้น ทำให้เส้นเลือดมีขนาดเล็กลง ซึ่งเลเซอร์ประเภทนี้มีอยู่หลายตัวด้วยกัน เช่น วีบีม (Vbeam Laser), Dual Yellow Laser, โปรเยลโลเลเซอร์ (Proyellow Laser) หรือ Long Pulsed Nd:YAG Laser เป็นต้นครับ
2. เลเซอร์รอยดำ
รอยดำสามารถรักษาได้ด้วยการใช้เลเซอร์เม็ดสี (Pigment Laser) เลเซอร์รอยสิวชนิดนี้จะเจาะจงสลายเม็ดสีใต้ชั้นผิว หลักการทำงานคือการยิงพลังงานเลเซอร์ลงไปใต้ชั้นผิวแล้วทำการดูดสับเมลานิน ส่งผลให้เกิดความร้อนที่จะทำให้เมลานินแตกตัวครับ รอยดำจึงจางลง โดยตัวอย่างของเลเซอร์ชนิดนี้คือ Q-switched Nd:YAG Laser, พิโค่เลเซอร์ (PicoSecond Laser) เป็นต้น
3. เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดไม่มีแผล
เป็นเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาปัญหาของสีผิวแต่ได้ผลลัพธ์เสริมในเรื่องการปรับผิวให้เรียบเนียน โดยเลเซอร์ปรับสภาพผิวที่ไม่ทำให้เกิดแผล (Non-Ablative Laser) มีหลักการทำงานคือการยิงพลังงานเลเซอร์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับสภาพผิว ผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างของเลเซอร์ชนิดนี้มี Fraxel Dual Laser, LaseMD เป็นต้นครับ
ชนิดของเครื่องเลเซอร์รอยสิว
1. V-Beam Laser
ใช้คลื่นแสงสีเหลืองที่ช่วยในการจับกับเม็ดสีสีแดง ช่วยในการลดรอยแดงจากสิวได้ครับ มีข้อดีคือสามารถรักษาปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดต่างๆ เช่น รอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอย หรือปานแดงได้ผลลัพธ์ดีจนถึงดีมาก ส่วนข้อด้อยของ V-Beam Laser คือเป็นเลเซอร์ที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายต่อ shot สูง สำหรับผู้ที่มีรอยแดงค่อนข้างเยอะอาจมีค่าใช้จ่ายมากเกินที่ตั้งไว้ครับ
2. Quadrostar Proyellow
โดดเด่นในการใช้รักษาอาการที่เกิดจากเส้นเลือดทุกชนิด เช่น รอยแดงจากสิว เส้นเลือดขอด หรือปานแดง เป็นต้นครับ ถึงเลเซอร์รอยสิวชนิดนี้จะมีจุดเด่นในเรื่องการใช้พลังงานสูงได้ ทำให้สามารถรักษาเป็นบริเวณกว้าง แต่มีจุดด้อยตรงที่เป็นการยิงพลังงานแบบสแกนทำให้ใช้เวลาในการรักษาหนึ่งครั้งค่อนข้างนานครับ
3. IPL (Intense Pulse Light)
เครื่องนี้ไม่ใช่เลเซอร์ครับ แต่เป็นการใช้พลังงานแสงความเข้มข้นสูง แต่ไม่สามารถใช้พลังงานสูงมากในการรักษาได้เนื่องจากต้องระวังอาการผิวไหม้ที่อาจเกิดได้ง่ายกว่าเลเซอร์รอยสิว และต้องใช้ระยะเวลารักษาให้เห็นผลนานกว่าเลเซอร์สิว
4. Dual Yellow Laser
เลเซอร์รอยสิวชนิดนี้โดดเด่นเรื่องการทำให้ผิวกระจ่างใสจึงสามารถช่วยรักษาได้ทั้งรอยแดงและรอยดำจากสิว ผสานช่วงคลื่นแสงสีเขียวและช่วงแสงสีเหลืองเข้าด้วยกัน แต่จุดด้อยคือการรักษาแต่ละครั้งจะไม่สามารถใช้พลังงานที่สูงมากได้ จึงต้องใช้เวลารักษาหลายครั้ง ทำให้นานกว่าเลเซอร์สิวชนิดอื่นครับ
5. Q-Switched Nd:YAG Laser
อยู่ในหมวดของเลเซอร์เม็ดสี เป็นชนิดของเลเซอร์รอยสิวที่มีการใช้อย่างยาวนานสำหรับการรักษาเม็ดสี มักใช้รักษาปัญหาฝ้าและกระครับ เพราะให้ผลลัพธ์ในการรักษาจุดด่างดำเป็นอย่างดี รวมถึงมีราคาไม่แพงมาก
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์รอยสิว
ก่อนที่จะเข้ารับบริการเลเซอร์สิวควรปฏิบัติตัวดังนี้
- สามารถกดสิวได้ตามปกติ หรือจะผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA หรือ BHA ที่คลินิกก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้ทำเองที่บ้าน
- ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสครับขัดผิวเพื่อป้องกันผิวระคายเคือง
- ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา เช่น สภาพผิวสามารถทำเลเซอร์ได้หรือไม่ ประวัติการรับประทานอาหารเสริมเป็นอย่างไร หรือเป็นโรคทางผิวหนังหรือเปล่า เป็นต้น
- ใช้ครีมให้ความชุ่มชื่นกับผิวเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวขาดน้ำจนเกิดอาการแสบระหว่างเลเซอร์รอยสิว
แนวทางดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์รอยสิว
หลังจากเข้ารับบริการเลเซอร์สิวแล้วควรปฏิบัติตัวดังนี้
- หลังทำเลเซอร์รอยสิวอาจเกิดอาการแดง แต่จะสามารถจางลงได้เองภายใน 1-2 วัน บรรเทาอาการได้ด้วยการประคบเย็น
- ใช้ยาที่ทางคลินิกจัดให้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งยาชนิดทาและยารับประทาน
- หลีกเลี่ยงการสครับหน้าและผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ด้วยตัวเองเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- หากมีสิวอักเสบ ไม่ควรบีบหรือแกะด้วยตัวเอง
เลเซอร์รอยสิวกี่ครั้งถึงเห็นผล?
ระยะเวลาที่จะเห็นผลลัพธ์จากการเลเซอร์รอยสิวนั้นแตกต่างออกไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งปกติแล้วจะจางลงในแต่ละครั้งประมาณ 10-40% แต่สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยปัจจัยที่อาจส่งผลกับผลลัพธ์มีเช่น ชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษา, ความชำนาญของแพทย์รวมถึงเทคนิคที่ใช้ หรือความรุนแรงของปัญหาผิวครับ
เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่?
เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่? เลเซอร์รอยดําราคามากกว่าเลเซอร์รอยแดงหรือไม่? หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับข้อนี้อยู่มาก โดยปกติแล้วราคาของการทำเลเซอร์รอยสิวจะอยู่ที่ประมาณคอร์สละ 13,000-18,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่เลือกใช้ครับ
คำถามที่พบบ่อย
เลเซอร์รอยสิวบ่อยๆ ได้ไหม?
การทำเลเซอร์รอยสิวบ่อยๆ สามารถช่วยให้รอยดำหรือรอยแดงจางลงก็จริงครับ แต่ควรเว้นระยะเวลาในการทำให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้ผิวถูกผลัดเซลล์บ่อยจนเกินไป เพราะฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทำเลเซอร์ทุกครั้ง
เลเซอร์รอยสิวทำให้ผิวบางลงหรือเปล่า?
ผิวอาจบางลงในช่วงแรกเนื่องจากเกิดการผลัดเซลล์ เพราะฉะนั้นควรป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคืองด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงและหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงหลังจากทำเลเซอร์รอยสิวครับ
เลเซอร์รอยสิวดีกว่าการใช้ยารักษารอยสิวอย่างไร?
การรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์นั้นใช้เวลาในการเห็นผลชัดเจนที่น้อยกว่าการใช้ยารักษา รวมถึงหากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพของผิวหน้าตัวเองอาจทำให้เกิดปัญหาผิวมากขึ้นอีกด้วยครับ
ข้อสรุป
การรักษาปัญหารอยสิวที่เห็นผลได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วก็คือการทำ “เลเซอร์รอยสิว” ซึ่งในปัจจุบันมีนวัตกรรมเลเซอร์ออกมามากมายจึงสามารถเลือกให้เข้ากับปัญหาผิวของตนเองได้ครับ แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ราคาค่อนข้างสูงกว่าการใช้ยาหรือทำทรีตเมนต์แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ามาก
หากท่านใดสนใจและกำลังมองหาว่าจะใช้บริการเลเซอร์รอยสิวที่ไหนดี Mvita Clinic พร้อมให้คำปรึกษาและมอบประสบการณ์เสริมความงามให้แก่ทุกท่านครับ