ประกันสังคมก้าวหน้าโพสต์ลง “X” (เอ็กซ์) ว่า กระทรวงแรงงานเสนอร่างกฎหมายยกเลิกเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ส่อแววหวั่นกลับไปใช้ระบบแต่งตั้งเหมือนเดิม ต้องรอฟังข้อเท็จจริงจากกระทรวงแรงงานอีกครั้ง
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ภายหลังจากที่กระทรวงแรงงานออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ชุดใหม่อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา กำหนดแต่งตั้งกรรมการจากผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ที่มาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายละ 7 คน ซึ่งเป็นการมีกรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนที่มาจากการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ทั้งนี้ “ประกันสังคมก้าวหน้า” (@welfarestateTH) ได้โพสต์ลง “X” (เอ็กซ์) เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า “ด่วน! หลังจากที่ฝ่ายอำนาจเก่าพ่ายแพ้อย่างหนักในการ #เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ที่ผ่านมา ล่าสุดกระทรวงแรงงานได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับที่ให้บอร์ดใช้ระบบแต่งตั้งเหมือนเดิม ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาบรรจุลงในวาระ ครม.แล้ว หาก ครม.เห็นชอบจะเข้าสู่กระบวนการสภา”
โดยในโพสต์ประกันสังคมก้าวหน้าได้ยกภาพมาแสดงรายละเอียดเป็น มาตรา 3 ที่ให้ยกเลิกความในวรรค 3 ของมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“หลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายผู้ประกันตน หญิงและชาย คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส”
ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 “ประกันสังคมก้าวหน้า” ได้โพสต์ลง “X” อีกครั้ง ระบุว่า “ข้อสังเกตถึงความพยายามยกเลิกระบบ #เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม โดยผู้ประกันตนอาจถูกผลักดันโดยกลุ่มอำนาจเก่าของกระทรวงแรงงานที่ฝังรากอยู่มาอย่างยาวนาน ฝากรัฐมนตรีคนปัจจุบันทบทวนกฎหมายประกันสังคมฉบับสอดไส้นี้ อย่าปล่อยให้การมีส่วนร่วมของผู้ประกันตนต่อกองทุนลดลงไปมากกว่านี้เลย !”
รอฝั่งกระทรวงแรงงานชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดข้อเท็จจริงจะต้องรอฟังฝั่งกระทรวงแรงงานออกมาให้คำตอบ เพื่อความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในฐานะที่ถูกพูดถึงในโพสต์ของประกันสังคมก้าวหน้า
ทั้งนี้ การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมชุดใหม่เป็นการทำตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ซึ่งที่ผ่านมาบอร์ดประกันสังคมมาจากการเลือกตั้งจากระบบของผู้แทนของสหภาพแรงงานเลือก แต่พอมีรัฐประหารปี 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งยุบบอร์ดเดิม แล้วแต่งตั้งบอร์ดใหม่มาแทน จนได้มามีการเลือกตั้งเมื่อ 24 ธันวาคม 2566 หลังจากที่ไม่เคยทำมาราว 9 ปี
ความสำคัญของบอร์ดประกันสังคม
คณะกรรมการประกันสังคมจะเข้ามาจัดการและดูแล “กองทุนประกันสังคม” โดยตัวเลขเงินสะสมของกองทุน ณ เดือนกรกฎาคม 2566 มีเงินสะสมอยู่กว่า 2.37 ล้านล้านบาท รวมดอกผลการลงทุนเฉพาะเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมที่ 31,940 ล้านบาท ส่วนเงินสะสมกองทุนเงินทดแทนมีเงิน 76,470 ล้านบาท รวมดอกผลจากการลงทุน 1,247 ล้านบาท และมีสมาชิกที่เป็นสถานประกอบการกว่า 510,000 แห่ง และผู้ประกันตนกว่า 24.5 ล้านคน
จึงมีผลต่อสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนพึงได้รับ โดยมีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ ดังนี้
1.เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการในการประกันสังคม พิจารณาให้ความเห็นต่อรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกา การออกกฎกระทรวง และระเบียบต่าง ๆ
2.วางระเบียบโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการรับเงินการจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินของกองทุน
3.วางระเบียบโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน
4.พิจารณางบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุน และรายงานผลการปฏิบัติงานประจําปีของสํานักงาน ในส่วนที่เกี่ยวกับการประกันสังคม
5.ให้คําปรึกษาและแนะนําแก่คณะกรรมการอื่นหรือสํานักงาน
6.ปฎิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมาย หรือตามที่รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานมอบหมาย
คุณสมบัติผู้สมัครเข้าบอร์ดประกันสังคม
สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นคณะกรรมการประกันสังคม ดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันปิดสมัครรับเลือกตั้ง
- ส่งเงินสมทบติดต่อกันไม่น้อยกว่า 36 เดือน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
- ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
- ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย ทุจริต
- ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
- ไม่เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
- ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือเลิกจ้างจากหน่วยงานของรัฐ หรือสถานประกอบกิจการของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่
- ไม่เป็นคู่สัญญา หรือมีประโยชน์ได้เสียในกิจการที่เป็นคู่สัญญา หรือมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับสำนักงาน ไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม
- ไม่เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือกรรมการ ที่ปรึกษาของพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี