เปิดขั้นตอนรับเงินเยียวยา 5 หมื่นบาท แรงงานไทยกลับจากอิสราเอล

ปลัดแรงงานเผยขั้นตอน-เอกสารหลักฐาน แรงงานไทยกลับจากอิสราเอลขอรับเงินเยียวยา 50,000 บาท จำนวน 15,000 คน คิดเป็นมูลค่ารวม 750 ล้านบาท บรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้

วันที่ 17 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครม. ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติให้กระทรวงแรงงานดำเนินโครงการเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ของแรงงานไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ ประมาณการว่าจะมีแรงงานไทยจะได้รับสิทธิ จำนวน 15,000 คน คนละ 50,000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 750 ล้านบาท

กลุ่มไหนมีสิทธิได้รับ 5 หมื่นบาท ?

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 อนุมัติให้กระทรวงแรงงานดำเนินโครงการเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ของแรงงานไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล มีแรงงานที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล และเดินทางกลับประเทศไทยหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2566

กลุ่มที่ 2 แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล

กลุ่มที่ 3 แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลและเดินทางกลับประเทศไทย ก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยใช้ Re-Entry Visa แต่ไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้เนื่องจากกรมการจัดหางานชะลอการเดินทางด้วยเหตุภัยสงครามในประเทศอิสราเอล

กลุ่มที่ 4 ประมาณการแรงงานไทยที่คาดว่าจะประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย/เดินทางกลับไทยเพิ่มเติม รวมถึงแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

“ขอให้จัดเตรียมเอกสารให้พร้อม โดยผู้ที่มีสิทธิรับเงินเยียวยานั้นต้องยื่นคำร้องด้วยตนเองเท่านั้น ส่วนกรณีเสียชีวิตให้ทายาทผู้มีสิทธิเป็นผู้ยื่นคำร้อง”

ขั้นตอนขอรับเยียวยา

แรงงานที่เดินทางกลับไทยหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ให้เตรียมเอกสาร ได้แก่ 1) บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา 2) หนังสือเดินทางพร้อมสำเนา หน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้า-ออก ประเทศไทย หรือหนังสือเดินทางชั่วคราว (CI) พร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้าประเทศไทย 3) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอน ผ่านระบบ KTB Corporate Online 4) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของแรงงาน

ส่วนแรงงานกลุ่มที่เดินทางกลับไทยก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยใช้ Re-Entry Visa ให้เตรียมเอกสาร ได้แก่ 1) บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา 2) หนังสือเดินทางพร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้า-ออก ประเทศไทย (ไม่เกิน 90 วัน) 3) Re-entry Visa (อายุไม่เกิน 90 วัน) 4) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online 5) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของแรงงาน

และหากเป็นแรงงานไทยที่เสียชีวิตให้ทายาทผู้มีสิทธิเป็นผู้ยื่นคำร้อง โดยใช้เอกสารดังนี้ 1) สำเนาใบมรณบัตร 2) สำเนาทะเบียนบ้านผู้เสียชีวิต 3) หนังสือรับรองความสัมพันธ์ทางครอบครัว 4) หนังสือให้ความยินยอมเป็น ทายาทโดยธรรม 5) บัตรประชาชนทายาท 6) สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีคู่สมรส) 7) สำเนาสูติบัตร (กรณีบุตร) 8) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online 9) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารทายาทผู้มีสิทธิรับเงินเยียวยา

สำเนาเอกสารทุกฉบับต้องรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลงลายมือชื่อเรียบร้อยแล้ว และกระทรวงแรงงานจะแจ้งวันและเวลาเริ่มการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลให้ทราบต่อไป

ตรวจสอบสถานะคำร้อง

นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงแรงงานจะมีคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วน โดยจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้มีสิทธิหรือทายาทผู้มีสิทธิ (กรณีเสียชีวิต) ภายใน 7-10 วัน โดยระหว่างการพิจารณา ผู้ยื่นคำร้องสามารถตรวจสอบสถานะคำร้องได้โดยการสแกน QR CODE ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ผู้รับคำร้อง

สามารถสอบถาม ได้ที่ สายด่วน กระทรวงแรงงาน 1506 หรือศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามความไม่สงบในอิสราเอล โทร.0-2245-6710-11 สำนักงานแรงงานจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ