เยียวยารอบใหม่ ม.33-39-40 แรงงานสถานบันเทิง เช็กเกณฑ์-ขั้นตอนที่นี่

เช็กที่นี่ ผู้ประกันตนในกิจการสถานบันเทิงกลุ่มไหนบ้าง? ต้องขอหนังสือรับรองจากสมาคม ก่อนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท

​​วันที่ 17 ธันวาคม 2564 จากกรณีแรงงานในในกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะได้รับผลกระทบจากนโยบายสั่งปิดสถานที่และสถานประกอบการกิจการเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) และได้รวมตัวกันเรียกร้องเงินเยียวยาเนื่องจากขาดรายได้ ทางกระทรวงแรงงานได้หารือผู้แทนสมาคมดนตรีและสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีแนวทางการเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 ทุกมาตราได้รับเงินเยียวยาในอัตรา 5,000 บาทต่อคน

นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ได้นำเรื่องเสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แล้ว โดยเห็นชอบการเยียวยาตามแนวทางดังนี้

1. ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย มีข้อมูลในระบบประกันสังคม โดยนายจ้างที่เป็นสถานประกอบการบันเทิง ผับ บาร์ หรือคาราโอเกะ เป็นผู้ยื่นชื่อลูกจ้างขึ้นทะเบียนนับตั้งแต่เข้าทำงาน

2. ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะต้องได้รับการรับรองจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การรับรอง ภายในวันที่ 14 มกราคม 2565 (เพราะการสมัครมาตรา 39 ไม่ได้ระบุอาชีพตอนสมัคร)

3. ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่สมัครทางเว็ปไซต์ประกันสังคม หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/ จังหวัด/ สาขา ทั่วประเทศ ไม่ต้องได้รับการรับรองจากสมาคมข้างต้น ยกเว้นผู้ที่สมัครผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) ซึ่งไม่มีการระบุอาชีพตอนสมัคร จะต้องได้รับการรับรองจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การรับรอง ภายในวันที่ 14 มกราคม 2565

นางสาวลัดดากล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ให้รีบสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 พร้อมรีบชำระเงินสมทบให้ทันภายในวันที่ 14 มกราคม 2565 และให้ทางสมาคมฯ ดังกล่าวข้างต้น รับรองภายในวันที่ 28 มกราคม 2565 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจกลุ่มสมาคมศิลปินกลางแจ้ง

“สำนักงานประกันสังคมจะดำเนินการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) ที่ผูกบัญชีกับเลขบัตรประชาชน โดยเริ่มจ่ายเงินเยียวยางวดแรกในวันที่ 29 ธันวาคม 2564”

ทั้งนี้ ทาง สปส. กระทรวงแรงงาน จะนำเรื่องสู่กระบวนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 นี้ เพื่อให้เห็นชอบ