ลูกนัทโชว์ใบรับรองแพทย์ ตาบอดจริง นัดวางเงินเดิมพัน “สิระ” 30 ส.ค.นี้

ลูกนัท โชว์ใบรับรองแพทย์ ตาบอดจริง นัดวางเงินเดิมพัน

“ไฮโซลูกนัท” บุกสภา โชว์ใบรับรองแพทย์ ตาบอดจริง นัดวางเงินเดิมพัน “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.ดาวสภา 1 : 10 ล้าน วันจันทร์ที่ 30 ส.ค. ที่บ้านทรงไทย แจ้งวัฒนะ 

วันที่ 24 สิงหาคม 2554 เวลา 11.35 น. ที่ประตูรัฐสภา ฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณี นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท เดินทางเข้ายื่นใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าดวงตาข้างขวาบอดให้กับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผ่านนายพีรวัส สมวงศ์ ผู้ช่วยดำเนินงานคนที่ 3 ของนายสิระ ตามรายงานของมติชน

นายธนัตถ์อกล่าวว่า ในส่วนที่นายสิระเดิมพัน 1 ล้านบาท และท้าให้ตนวางเพิ่มอีก 10 ล้านบาท หากตนตาไม่บอดจริง เรื่องนี้มองว่าถึงอย่างไรประชาชน คนไร้บ้านก็วินและได้ประโยชน์ เพราะประชาชนจะได้มีเงินเข้ากระเป๋า ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าตาขวาของตนยังกะพริบได้ปกตินั้น กะพริบได้ แต่ไม่ดีมาก และไม่มีความรู้สึก แต่ยืนยันว่ามองไม่เห็น และเทคโนโลยีที่มีตอนนี้ยังไม่สามารถรักษาได้

นายธนัตถ์กล่าวว่า ส่วนที่นายสิระออกมาระบุว่ามีแหล่งข่าวยืนยันว่าดวงตาของตนยังมองเห็น 15% นั้น ถ้าตนอยากตอแหลแล้วกลับมามองเห็นเป็นปกติเหมือนเดิม ไม่ว่าจะ 10 20 หรือ 100 ล้าน ตนก็ยอม ถ้ากลับมามองเห็นได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าจะเปลี่ยนนามสกุลนั้น นายธนัตถ์กล่าวว่า การเปลี่ยนนามสกุลเพื่อที่จะได้เป็นตัวเอง ไม่ถูกเหมารวมกับใครคนอื่นเลยดีกว่า แต่ยังรักแม่และน้องสาวเหมือนเดิม วันนี้สิ่งสำคัญคือสิทธิและเกียรติ การลิดรอนสิทธิกัน โดยเฉพาะเรื่องการเรียกร้องประชาธิปไตย

“การออกกลอุบายเพื่อลิดรอนสิทธิ ผมรับไม่ได้ ไม่ใช่แค่ดวงตา แต่ผมมอบให้ทั้งชีวิต เอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าการเมืองจะต้องดีขึ้น ถ้าจะหยุดผม ต้องฆ่าผมให้ตายจึงจะหยุดได้ วันนี้นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ป่วยหนักกว่าผมอีก ส่วนนามสกุลที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการ มหาวิทยาลัยเกียวโต ตั้งให้ ผมชอบมาก แต่ดูแล้วสำนักงานเขตไม่น่าจะให้ใช้” นายธนัตถ์กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีการแต่งกายไปร่วมม็อบที่สังคมไม่สบายใจนั้น นายธนัตถ์กล่าวว่า อะไรที่กระทบจิตใจเกินไปก็ต้องขอโทษ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่น หรือเจตนาให้ประชาชนที่มีความรู้สึกเฉย ๆ กับกลุ่มรอยัลลิสต์ ต้องโกรธเคืองเดือดร้อน เพราะความโกรธเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจ ตนเข้าใจดี เพราะเป็นโรคซึมเศร้า ถ้าทำให้โกรธก็ต้องขอโทษด้วย ไม่อยากให้รู้สึกแบบนั้นและไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร ไม่ว่าจะเป็นณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตแกนนำ กปปส.ก็ไม่อยากเป็นศัตรู ตอนคาร์ม็อบมีช่วงที่ผ่านบ้านเขาย่านสุขุมวิท ตนยังได้บอกมวลชนว่าไม่ต้องเข้าไป ตนไม่โกรธใครทั้งนั้น

นายธนัตถ์กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าได้พูดคุยกับนายสิระ ซึ่งเขาก็ขอโทษที่ใช้คำรุนแรงมากไป ตนบอกว่าไม่เป็นไร และเท่าที่ได้พูดคุยกันนายสิระก็เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่รู้ใครไปป้ายสีว่าเขาหยาบคาย นอกจากนี้ ยังได้ฝากนายสิระในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ว่าให้ดูแลประชาชนและดูว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนทำงานถูกหลักสากลหรือไม่ ซึ่งนายสิระตอบว่าเพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับม็อบ อาจมีการตั้งจุดตรวจอาวุธก่อน โดยนายสิระจะประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยดู การชุมนุมจะได้ชอบธรรม และตำรวจควบคุมฝูงชนจะได้ไม่ต้องใช้กำลังในการสลาย ก็ต้องขอบคุณนายสิระด้วย

เมื่อถามว่า นายสิระบอกให้ไปตรวจดวงตาที่โรงพยาบาลรัฐบาลโดยแพทย์ 3 คน นายธนัตถ์กล่าวว่า ไปได้ จะเอาหมอมา 300 คนก็ได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหมอที่ออกใบรับรองแพทย์ให้ หากไม่เป็นความจริง เขาก็เสียหาย และมีความผิดตามจรรยาบรรณแพทย์ และคงไม่มีใครกล้าทำ

ด้านนายพีรวัสกล่าวว่า ช่วงนี้นายสิระกำลังยุ่งอยู่กับงานของสภา ทั้งการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้น ในวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม เวลา 13.00 น. จะนัดหมายกันที่บ้านทรงไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อต่างคนต่างวางเงินในวันดังกล่าว ในส่วนของนายสิระจะวางเงินสด

ขณะที่ นายธนัตถ์กล่าวว่า ในส่วนของตนขอวางเป็นเช็ค เนื่องจากไม่ได้ถือเป็นเงินบาทไทย แต่เป็นคริปโทเคอร์เรนซี และคงไม่ถอนออกมาตอนนี้เพราะค่าเงินกำลังขึ้น หากถอนออกมาขาดทุนแน่นอน ซึ่งตอนนี้มีเงินแค่หลักหมื่นในบัญชี

นายธนัตถ์กล่าวว่า หากผลตรวจออกมาตนเป็นฝ่ายผิด จะถอนเงินออกมาจ่ายแน่นอน คนอย่างตนไม่เชิดเงิน หรือจะให้ถอดนาฬิกา หรือสำเนาทะเบียนรถวางไว้ก็ได้ เพราะราคาใกล้เคียง 10 ล้าน ซึ่งนายสิระยืนยันว่าจะวางเงินสดไว้ 1 ล้านบาท และเมื่อผลออกมาประจักษ์ชัดเมื่อไรว่าตาบอดหรือไม่นั้น เงินของตนที่พนันไว้จะนำไปแจกประชาชน ซึ่งตนยกความดีความชอบให้นายสิระให้เป็นแจกในพื้นที่เลือกตั้งนายสิระด้วย ขออย่างเดียวให้ประชาชนที่ลำบาก ไร้บ้าน ยากไร้ ได้รับอะไรบ้าง จะได้มีเงินมีอาหารประทังชีวิต