“ธนิตย์ จิตนุกูล” นำทีมผู้กำกับ ร้องถึงเสรีภาพคนสร้างหนัง หลัง “ไทบ้านฯ” ถูกแบน

จากกรณีที่ภาพยนตร์เรื่อง ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 ไม่ผ่านเซ็นเซอร์จากคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เนื่องจากประเด็นความอ่อนไหวทางศาสนา เพราะหนึ่งในฉากภาพยนตร์ที่มีปัญหาคือ ฉากที่ที่พระหนุ่มเพิ่งบวชแสดงอาการร้องไห้ฟูมฟายต่อหน้าโลงศพหญิงคนรัก นั้น ล่าสุด สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย โดย ธนิตย์ จิตนุกูล นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย พร้อมด้วย ปรัชญา ปิ่นแก้ว , บัณฑิต ทองดี และ อนุชา บุญยวรรธนะ ได้แถลงเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวว่า

“เราอยากให้คณะกรรมการมองที่บริบทของภาพยนตร์ พระองค์นี้ก่อนบวชก็เป็นหนุ่มไทบ้านจิ๊กโก๋คนหนึ่ง บวชเพราะอกหักผ่านไป 3 เดือน ผู้หญิงฟูมฟาย เพราะเขาไม่ได้ถูกสอนให้สำรวมมาก่อน”

“บวกกับระยะเวลาการบวชที่ยังน้อย เลยแสดงอาการแบบที่เห็น”

เหตุนี้ตนจึงรู้สึกว่ามาตรฐานของคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากมีภาพยนตร์บางเรื่องที่มีฉากความรุนแรงของพระสงฆ์แต่ไม่โดนเซ็นเซอร์

ปรัชญา กล่าวเสริมว่า ตนอยากนำเสนอเรื่องสิทธิผู้สร้างงาน ว่าไม่ควรต้องโดนกลั่นกรอง ควรเป็นโลกเสรีที่ใช้กฎหมายเดียวกับการผลิตงานประเภทอื่นอย่างเท่าเทียม เนื่องจากตนเชื่อว่าผู้ชมมีวุฒิภาวะเพียงพอต่อการรับผลงานตามเรทกำหนดที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ธนิตย์ และ อนุชา ได้ยกตัวอย่างถึงภาพยนตร์เรื่อง มะลิลา ที่มีการกล่าวถึงตัวละครผู้ชายที่มีความรักต่อเพศเดียวกัน แม้บวชแล้วก็ยังคงแสดงความรู้สึกต่อคนที่รักอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ผู้กำกับได้เชิญพระสงฆ์มาร่วมชมภาพยนตร์

ซึ่งพระสงฆ์ที่ชมนั้นไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงลบ เพราะมองว่าหนังนำเสนอให้คนเข้าใจพระสงฆ์มากขึ้น ว่าพระไม่ใช่รูปเคารพแต่พระคือมนุษย์ปกติ จึงรู้สึกว่าหากผู้ผลิตภาพยนตร์ได้รับอิสระในเรื่องการผลิตนั้น ทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างผู้ผลิตและผู้ชมได้มากกว่าสร้างความขัดแย้ง

“อยากให้ปรับเปลี่ยนโดยมอบอำนาจให้บุคคลในวงการภาพยนตร์ดูแลกันและกัน”

“หรือไม่เช่นนั้นก็อยากขอมาตราฐานการจัดเรทของกระทรวงวัฒนธรรม

“จริงๆแล้วมันเกิดความเสียหายต่อภาพยนตร์ไทบ้านเดอะซีรีส์2.2 จึงต่อออกมาเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้โดนพิจารณาด้วยประเด็นที่อ่อนมาก” ธนิตย์ จิตนุกูล กล่าวย้ำ

ซึ่งฉากดังกล่าวที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์จากคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ทางผู้สร้างตกลงจะทำการตัดออกจากภาพยนตร์ แม้ว่าฉากดังกล่าวจะส่งผลต่อภาพรวมของภาพยนตร์ก็ตาม

“เชื่อว่าในมุมของผู้สร้างภาพยนตร์คงไม่อยากให้มีเรื่อง มีปัญหา วางโปรแกรมแล้วคงอยากฉายตามปกติ จึงยอมตัดเพื่อได้เรท18 ”

ซึ่งทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องของเสรีภาพในการทำงานของคนในวงการภาพยนตร์

“ถ้าเป็นแบบนี้เมื่อไรจะมีมุมมองใหม่ๆ เนื้อหาหนังไทยก็ถูกจำกัดถ้าถูกกดดัน เราจึงอยากแสดงออกเรื่องเสรีภาพสื่อ” บัณฑิต กล่าวเสริม

“สำหรับมองว่าฉากที่เห็นยังเบาและปลอดภัยว่าคลิปข่าวที่เราเห็นทุกวันนี้ด้วยซ้ำ ปลอดภัยมีที่มาที่ไป มีบทสรุป แต่กลับโดนควบคุม” ปรัชญา กล่าวปิดท้าย

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์