ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ตระกูล “วีระภุชงค์” ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เมื่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทรงเปิดโรงแรม “โนโวเทล ภูเก็ต โภคีธรา” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล สีขาวสวยงาม นับเป็นธุรกิจใหม่ของตระกูล “วีระภุชงค์” ที่ได้ซื้อต่อมาจากโรงแรมเดิม คือ ถาวร แกรนด์ แล้วทำการรีโนเวตปรับปรุงใหม่ให้ดูดีมีระดับ
ดังนั้น เมื่อวันเสด็จพระราชดำเนิน คนในตระกูลวีระภุชงค์เฝ้าฯรับเสด็จอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ตั้งแต่เจ้าสัวใหญ่ “วินัย วีระภุชงค์” และภริยา ร่วมด้วยลูกๆ และหลานๆ ทั้งหมดของป๋าวินัย เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนฯ เสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงตัดริบบิ้นเปิดอาคารใหญ่ของโรงแรม จากนั้นทรงลงพระนามาภิไธยที่แผ่นป้ายโลหะชื่อโรงแรม ทรงดำเนินรอบๆ โรงแรม ก่อนเสด็จขึ้นยังห้องรับรองที่ประทับ กระทั่งเวลา 19.00 น. เสด็จลงยังห้องบอลรูม เพื่อทรงร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ และเสวยพระกระยาหารค่ำที่ทางโรงแรมจัดถวาย
สิ่งที่สร้างความปลื้มปิติอย่างยิ่งแก่เจ้าของโรงแรมและครอบครัวคือเช้าวันรุ่งขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่หลังทรงออกกำลังกายด้วยการเดินเร็วรอบโรงแรมแล้วทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเข้าครัวเพื่อปรุงอาหารเช้าด้วยพระองค์เอง เป็นอาหารเช้าขึ้นชื่อของคนภูเก็ต คือ “บักกุ๊ดเต๋” และผัดผักบุ้งไฟแดง ไม่มีใครรู้ได้ว่าทรงได้สูตรการปรุงมาจากไหน แต่ที่ทุกคนเห็นคือทรงปรุงได้อย่างคล่องแคล่วและชำนาญ กระทั่งได้บักกุ๊ดเต๋หม้อใหญ่ สีสันสวยงาม ได้พระราชทานส่วนหนึ่งแก่ครอบครัวคุณสุภชัย อีกทั้งคณะผู้ใหญ่ที่ติดตามเสด็จ
“บักกุ๊ดเต๋” หรือ Bak kut teh อาหารชื่อแปลกออกเสียงเหมือนภาษาแขกนี้ ได้ชื่อว่าเป็นอาหารเช้ายอดนิยมของคนภูเก็ต ชนิดที่เรียกว่าใครไปภูเก็ตแล้วไม่ได้กิน ถือว่ายังเข้าไม่ถึงจิตวิญญาณของที่นั่น หากดูชื่อและความหมาย “บักกุ๊ด” แปลว่า “กระดูกหมู” และ “เต๋” แปลว่า “น้ำชา” รวมกันเป็น การกินกระดูกหมูกับน้ำชา เพราะเชื่อว่าน้ำชาจะช่วยเจือจางหรือละลายไขมันจากหมูนั่นเอง
ความเป็นมาของบักกุ๊ดเต๋ มีเรื่องเล่าขานกันว่าต้นกำเนิดมาจากเมืองฉวนโจว ในมณฑลฝูเจี้ยน หรือจากเฉาซาน ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีผู้ทำรับประทานอยู่ จากนั้นมีการนำเข้ามาเผยแพร่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับชาวจีนโพ้นทะเล แต่ก็มีพูดกันอีกว่าที่เป็นไปได้มากที่สุด คือเป็นการคิดค้นของชาวจีนชั้นสูงคนหนึ่งจากเมืองฉวนโจว ในมณฑลฝูเจี้ยน สูตรลับถูกส่งต่อให้เพื่อนที่เดินทางสู่เมืองเคลัง ประเทศมาเลเซีย และเพื่อนคนนี้ก็เป็นคนแรกที่ปรุงบักกุ๊ดเต๋ขาย กระทั่งกลายมาเป็นอาหารขึ้นชื่อ ถูกเลียนแบบและปรับปรุงแตกต่างไปจากเดิม ดังนั้น ตามเรื่องราวนี้จึงต้องบอกว่าชาวฮกเกี้ยน คือผู้คิดค้นบักกุ๊ดเต๋ขึ้นมา
ข้อแตกต่างระหว่าง “บักกุ๊ดเต๋แบบฮกเกี้ยน” กับ “บักกุดเต๋แบบแต้จิ๋ว” คือแบบฮกเกี้ยนจะใช้ซีอิ๊วดำ และน้ำแกงมีสีเข้มกว่า ส่วนบักกุ๊ดเต๋แบบแต้จิ๋วจะเป็นน้ำซุป (น้ำแกง) สีใสกว่า แต่ใส่พริกไทยมากกว่า
โดยทั่วไปการปรุงอาหารชนิดนี้มักจะใช้ซี่โครงหมูอ่อนตุ๋นในน้ำสมุนไพรและเครื่องเทศและมีส่วนประกอบอื่นๆอาทิ เห็ดชนิดต่าง ๆ ผักกาด ฟองเต้าหู้ และยังมีเครื่องสมุนไพรจีนที่เป็นตัวหลักสำคัญใส่เข้าไปให้เกิดรสและเป็นประโยชน์กับร่างกาย ได้แก่ โกฐเชียง-บำรุงและกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต, อึ้งคี้ หรือปักคี้-ช่วยบำรุงหัวใจและเลือดลม, เก๋ากี้-ช่วยลดอาการเจ็บคอ วิงเวียน หน้ามืด และช่วยให้หลับสบาย, ชะเอมเทศ-แก้ปวด กล้ามเนื้อหดเกร็ง
การรับประทานบักกุ๊ดเต๋จะมีซีอิ๊วเป็นเครื่องปรุงรส กับพริกขี้หนูและกระเทียมสับ เพิ่มรสชาติให้จัดจ้านมากขึ้น แล้วตามด้วยน้ำชาจีนร้อนๆ เรียกเหงื่อได้ดีนักแล
ความน่าสนใจของจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องของการค้าขายหรือการลงทุน ในด้านการท่องเที่ยว “ภูเก็ต” ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกอันดามัน” ดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศทั้งเอเชีย ยุโรป หรือแม้แต่ตะวันออกกลาง ต่างหลงมนต์เสน่ห์ของทะเลภูเก็ต ไม่ว่าหาดกะรน กะตะ หรือแม้แต่แหลมพรหมเทพยามพระอาทิตย์ตกดิน
บรรดานักลงทุนทั้งหลายจึงมุ่งหน้าสู่ภูเก็ต เพื่อปักหมุดทางธุรกิจ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเองที่เล็งเห็นความสำคัญและทุ่มงบประมาณลงไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานในขณะนี้เช่นเดียวกับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่สุภชัยวีระภุชงค์ นักธุรกิจพันล้าน ผู้บริหารบริษัทไทยนครพัฒนา เจ้าของยาแก้หวัด “ทิฟฟี่” กรรมการผู้จัดการโภคีธรา กรุ๊ป ที่ได้แตกหน่อธุรกิจด้านการโรงแรมขึ้นที่ภูเก็ต คือ “โนโวเทล ภูเก็ต โภคีธรา” เป็นโรงแรมขนาด 324 ห้อง ให้บริการครบครันพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย โดยเฉพาะห้องจัดเลี้ยงและสัมมนาในหลากหลายรูปแบบ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “สุภชัย” เล่าว่า โรงแรมแห่งนี้มีดีที่ “ทำเล” เพราะอยู่ใจกลางเมือง ง่ายและสะดวกสบายต่อการเดินทาง สามารถไปย่านช็อปปิ้งภายใน 5 นาที และยังไปตามแหล่งท่องเที่ยว อย่างเช่น ย่านเมืองเก่าตึกชิโน-โปรตุกีส เดินไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ทำรายได้ให้ประเทศไทย ซึ่งกลุ่มไทยนครพัฒนามีที่ดินอยู่แล้วในมือ บวกกับศักยภาพที่มีอยู่ จะสามารถพัฒนาธุรกิจโรงแรมให้รองรับกับการท่องเที่ยวซึ่งจะขยายตัวอีกมาก
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
ติดตามอ่านข่าวสารจากประชาชาติออนไลน์
ดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชั่น >> Prachachat << ได้แล้ววันนี้