เผยโฉมชุดแข่งช้างศึก 2019 ชูคอนเซ็ปต์ “Now or Never” จะลุกขึ้นสู้ใหม่หรือล้มตลอดไป เราเลือกเอง

วันนี้ (18 ธันวาคม 2561) บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ผู้ถือสิทธิ์การออกแบบ การผลิต และจัดจำหน่ายชุดแข่งขันและเครื่องแต่งกายนักเตะทีมชาติไทย จัดงานเผยโฉมชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยประจำปี 2019 ที่มีชื่อชุดว่า “Changsuek The First Eleven (ช้างศึก เดอะ เฟิร์ส อีเลฟเว่น)” ในคอนเซ็ปต์ “Now or Never” ปลุกพลังนักเตะและแฟนบอลทีมชาติไทยเตรียมพร้อมสู้ไปด้วยกัน

ภายในงานมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมตัวแทนนักฟุตบอลทีมชาติไทย นำโดย เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนะบูรณ์ เกษารัตน์, สิโรจน์ ฉัตรทอง และธนาสิทธิ์ ศิริผลา รวมทั้งนักฟุตซอลทีมชาติไทย นำโดย เจษฏา ชูแก้ว, คฑาวุธ หาญคำภา และปาณัสม์ กิตติภาณุวงศ์ ร่วมด้วย เจ้าพ่อฮิปฮอป “เวย์-ไทเทเนี่ยม” มาร่วมสร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเพลง Now or Never เรียกพลังใจพลังเชียร์จากคนไทยทั่วประเทศ

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ให้รายละเอียดว่า ชื่อชุดแข่ง Changsuek The First Eleven (ช้างศึก เดอะ เฟิร์ส อีเลฟเว่น) สื่อถึง 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ดีที่สุด ที่กำลังลงสนามไปปฏิบัติภารกิจสำคัญเพื่อชาติ และเพื่อความสุขของคนไทยทั้งประเทศ ส่วนคอนเซ็ปต์ “Now or Never” เป็นเหมือนการประกาศพลังศรัทธาของคนไทยว่าจะไม่ยอมล้มตลอดไป แต่จะลุกขึ้นสู้ใหม่ไปด้วยกัน โดยชุดแข่งใหม่ปี 2019 จะถูกใช้ครั้งแรกโดยนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ในการแข่งขันรายการสำคัญระดับเอเชียซึ่งกำลังจะฟาดแข้งกันต้นเดือนมกราคม ปี 2019

“วอริกซ์มุ่งมั่นขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งส่งพลังให้ทัพนักเตะไทย จึงได้ตัดสินใจสร้างปรากฏการณ์ชุดแข่งขันที่ดีที่สุดเพื่อนักฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเป็นครั้งแรกที่ชุดแข่งขันของทีมชาติไทยเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับชุดแข่งขันของทีมฟุตบอลทีมชาติที่ดีที่สุดของโลก และทีมฟุตบอลระดับสโมสรชั้นนำของโลกหลายทีม รวมทั้งการเลือกใช้เฟล็กซ์ (flex) บนชุดแข่งขันก็เป็นเฟล็กซ์ที่มีมาตรฐานเดียวกับชุดแข่งขันทีมชาติระดับโลกเช่นเดียวกัน ผนวกเข้ากับดีไซน์ที่โดดเด่นมากขึ้น ทั้งรูปลักษณ์และสอดรับกับสรีระของนักฟุตบอลมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มความรู้สึกกระชับและคล่องตัวสูงสุดขณะลงแข่งขัน”

ชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปี 2019 จะใช้สีน้ำเงินเป็นชุดแข่งเหย้า ใช้สีแดงเป็นชุดแข่งเยือน และสีขาวเป็นชุดแข่งที่ 3 ส่วนชุดผู้รักษาประตู ประกอบด้วย สีเขียวเข้ม, สีเขียวอ่อน, สีเทา และสีม่วง โดยทำชุดแข่งขันออกมาเป็น 3 แบบได้แก่

Advertisment

1.ชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) มีจุดเด่นอยู่ที่การผลิตโดยใช้เทคโนโยลีการผลิตล่าสุดที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับชุดทีมชาติที่ดีที่สุดของโลกและทีมสโมสรชื่อดังระดับโลก และใช้เทคโนโลยี COMBATEC 7 (คอมแบทเทคเซเว่น) ขายราคา 1,999 บาท

2.ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล (Warrix Replica Jersey) มีจุดเด่นอยู่ที่ความคุ้มค่าสำหรับแฟนบอล เนื่องจากเสื้อสำหรับแฟนบอลปีนี้ มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกันมากกับชุดแข่งที่ขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) แต่จำหน่ายในราคาเพียงครึ่งเดียว โดยรูปลักษณ์ และการใช้เทคโนโลยีการผลิต ผ้าที่ถักทอมาอย่างดี และวัสดุต่างๆ ทั้งหมดคุณภาพใกล้เคียงมากกับชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ และใช้เทคโนโลยี COMBACOOL 5 (คอมแบทคูล ไฟฟ์) ขายราคา 999 บาท

3.เสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (Warrix Cheer Jersey) มีจุดเด่นที่ถูกออกแบบให้การมีรูปลักษณ์เหมือนกันกับชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) เพื่อตอกย้ำเรื่องการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยใช้เทคโนโลยี COMBALITE 3 (คอมแบทไลท์ ทรี) จำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ ขายราคา 399 บาท

Advertisment

ชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปี 2019 สำหรับแฟนบอล (Warrix Replica Jersey) และเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (Warrix Cheer Jersey) จะเปิดจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทุกช่องทางการจัดจำหน่ายของวอริกซ์ ส่วนชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเช่นเดียวกัน แต่มีจำหน่ายเฉพาะที่ “ฟอร์ต วอริกซ์” โครงการสเตเดียม วัน เท่านั้น