ชงรัฐบาลเจรจารัฐต่อรัฐ ขยายสิทธิการบิน “อินเดีย”

Indian tourists

สำหรับนักท่องเที่ยวตลาดอินเดีย พบว่าในช่วงระหว่าง 1 มกราคม-6 พฤศจิกายน 2566 มีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยแล้ว 1,329,929 คน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ถึงร้อยละ 90 (1 มกราคม-31 ตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวอินเดีย 698,757 คน)

“ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า นักท่องเที่ยวอินเดียส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม millennials และกลุ่มครอบครัว ที่เดินทางมาพักผ่อน และนิยมเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) สูงถึงร้อยละ 75 และส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก (first visit) ถึงร้อยละ 57 จังหวัดท่องเที่ยวที่นิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ เมืองพัทยา ภูเก็ต กระบี่ พังงา

มีวันพักเฉลี่ย 7-8 วัน ใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 5,500 บาทต่อคนต่อวัน หรือประมาณ 38,000-44,000 บาทต่อคนต่อทริป

ปัจจุบันมีสายการบินพาณิชย์ให้บริการเที่ยวบินตรง (direct flight) จากอินเดียมาประเทศไทยรวมประมาณ 217,809 ที่นั่ง จาก 9 สายการบิน (ทั้ง full service และ low cost) โดยการบินไทยและ IndiGo Airlines ที่ทำการบินจากนิวเดลีและมุมไบมายังกรุงเทพฯ และภูเก็ตทุกวัน

นอกจากนี้ ยังมีบินตรงจากหลายเมืองสำคัญ อาทิ กัลกัตตา บังคาลอร์ เชนไน ไฮเดอราบาด อาห์เมดาบาดลัคเนา ฯลฯ

ทั้งนี้ จากข้อมูลการจองบัตรโดยสารเครื่องบินพบว่า อัตราค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วง high season ปัจจุบันอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร หรือ load factor เฉลี่ยประมาณ 65-70% อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดียมายังประเทศไทยจะปรับตัวในทิศทางบวกหลังจากวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป

โดยหลังจากมาตรการ Visa Exemption หรือวีซ่าฟรี มีผลบังคับใช้แล้ว ประเมินว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวปี 2566 คาดว่าจะกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียที่เดินทางมาประเทศไทยในปี 2566 ได้ถึงประมาณ 1.4-1.6 ล้านคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 65,600 ล้านบาท

จากสถานการณ์ปกติที่ ททท.ตั้งเป้าหมายจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางมายังประเทศไทยประมาณ 1,425,000 คน และสร้างรายได้ที่ประมาณ 58,500 ล้านบาท

“มาตรการ Visa Exemption จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจในการเลือกเดินทางมายังประเทศไทยสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มแต่งงาน, กลุ่ม celebration, กลุ่ม incentive รวมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางเป็นครั้งแรก เพราะเป็นมาตรการที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดียได้”

อย่างไรก็ตาม ตลาดอินเดียยังมีข้อจำกัด เนื่องจากติดเงื่อนไขข้อตกลงด้านการบินระหว่างไทย-อินเดีย โดยประเทศไทยได้รับอนุญาตให้ทำการบินได้จำนวน 29,759 ที่นั่งต่อสัปดาห์ จากเมืองใด ๆ ในอินเดียมายังประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้ใช้โควตาไป 23,609 ที่นั่ง ยังเหลือทำการบินได้อีกเพียง 6,150 ที่นั่งต่อสัปดาห์รัฐบาล

และยังไม่สามารถขอ Extra Allocation ได้ ทำให้ยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากอินเดียไปยังจุดหมายปลายทางอื่นในประเทศไทยนอกจากกรุงเทพฯ และภูเก็ต

ดังนั้น รัฐบาลจึงควรเร่งผลักดันการเพิ่มโอกาสขยายสิทธิการบินของอินเดียในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาลในสเต็ปต่อไป