“บิ๊กป้อม” สั่ง 10 ข้อ คุมเข้มฉลองปีใหม่เกาะสมุย-เกาะพะงัน

วันที่ 19 ธันวาคม ที่ห้องภาณุรังสี ชั้น 3 ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ (ศมบ.) ได้ประชุมทางไกลผ่านจอภาพ การเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2562 ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ตัวแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด โดยได้สั่งหน่วยงานการข่าวจับตาดูความเคลื่อนไหวกลุ่มที่จะฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ช่วงเทศกาล

ทั้งนี้ ในที่ประชุม พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการแนวทางปฎิบัติ 10 ข้อ ระบุว่า ให้สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ บูรณการด้านการข่าวการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและขึ้นปีใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดปลอดภัยมีความตื่นตัวเฝ้าระวังการก่อวินาศกรรมจุดเสี่ยงต่างๆทั้งสนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ศูนย์การค้า ท่าเรือ ที่มีประชาชนไปร่วมกิจกรรมมาก ส่วนพื้นที่จัดงานที่มีประชาชนมาก ให้ตั้งศูนย์อำนวยการร่วมกับทุกฝ่ายทำแผนเผชิญเหตุทั้งงานเคาว์ดาวน์และสวดมนต์ข้ามปี

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตามสถานีขนส่ง รถไฟ ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและไฟแสงสว่างให้มีความพร้อม โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินประชาชนป้องกันเหตุลักขโมย ประสานภาครัฐกับเอกชนที่มีกล้องวงจรปิดเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน และให้ตรวจวัดแอลกอฮฮล์ผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดำเนินคดีกรณีเมาแล้วขับ รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบและปรับปรุงเส้นทางการสัญจรของประชาชนและนักท่องเที่ยว ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกให้หยุดประกอบการกิจการหรือหลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุก เพื่อบรรเทาการจราจรและป้องกันเกิดเหตุ

“นอกนี้ให้กระทรวงสาธารณสุข รองรับการเกิดอุบัติเหตุและพร้อมช่วยเหลือประชาชน โดยให้กรมประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยเพื่อลดอุบัติเหตุ เข้ามามีส่วนร่วมป้องกันเหตุในทุกช่องทาง ส่วนผู้ที่ไปต่างจังหวัดให้แจ้งโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านของประชาชน โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ และให้หน่วยทหารที่มีกองกำลังตามแนวชายแดน ร่วมกับตำรวจน้ำ เพิ่มความเข้มข้นสกัดกั้นป้องกันการลักลอบขนยาเสพติด อาวุธสงครามเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะยาเสพติดที่จะเข้ามาทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ รายงานว่า ตัวเลขการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุของคนไทยในระดับโลกมีอันดับที่ลดลง แต่ยังเป็นอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงขอเสนอให้ พล.อ.ประวิตร ดำเนินมาตรการสวมหมวกนิรภัยผู้ขับและผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์อย่างจริงจัง เนื่องจากมีการละเลยบังคับใช้กฎหมายและแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวจำนวนมาก จะช่วยลดการสูญเสียได้

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เห็นด้วยกับปัญหาเรื่องนี้ได้สั่งการมาเป็นปีแล้ว แต่ตำรวจยังต้องซื้อหมวกนิรภัยแจกให้ประชาชนใส่อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องจิตสำนึกของประชาชนด้วย

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์