โศกนากฏกรรมเอเชีย อย่างน้อย 3 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิตรวมกันเกิน 400 ราย มาจากการบริหารจัดการฝูงชนไม่ดี ไม่วางแผน ไม่เรียนรู้บทเรียนจากประเทศอื่น
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเอเชียภายในเวลา 1 เดือน จากเหตุเบียดเสียดในสนามฟุตบอลอินโดนีเซีย เหตุการณ์เบียดเสียดอีกครั้งในเทศกาลฮัลโลวีน ย่านอิแทวอน ต่อด้วยโศกนาฏกรรมสะพานข้ามแม่น้ำถล่มในอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 400 ราย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 3 เหตุการณ์ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การวางแผนที่ไม่ดีและการจัดการฝูงชนมีส่วนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
กรณีอินเดีย ทางการกำลังตรวจสอบว่าสะพานที่เกิดเหตุได้รับการซ่อมแซมมีการตรวจสอบอย่างถูกต้องหรือไม่
โศกนาฏกรรมเบียดกันตายในย่านอิแทวอน เทศกาลฮัลโลวีน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 156 ราย โดยเหตุการณ์เกิดจากผู้คนมากกว่า 1 แสนคนไปปาร์ตี้ฮัลโลวีนที่จัดขึ้นย่านนี้ ทำให้ถนนอัดแน่นไปด้วยผู้คน ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นตรอกแคบๆ ลาดเอียง ทำให้ไม่ฝูงชนสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่
มิลาด ฮากานี นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ในซิดนีย์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า เหตุการณ์ “ไม่ได้เกิดจากการผลักดันกัน”
งานฉลองดังกล่าวย่านอิแทวอนมีการบันทึกไว้อย่างดีว่าเมื่อความหนาแน่นของฝูงชนถึงระดับที่คาดการณ์ไว้ ผู้คนจะล้มลง ทำให้เกิดผลกระทบแบบโดมิโน
หายนะฝีมือมนุษย์
เมื่อดูตัวเลขผู้คนที่มางานเฉลิมฉลอง หลังทางการเลิกมาตรการควบคุมโควิด เจ้าหน้าที่ควรคาดคะเนจำนวนคนที่จะมางานฮัลโลวีนได้อย่างง่ายดาย และอาจจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมฝูงชนเพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้พื้นที่ดังกล่าวหนาแน่นเกินไป
เจ้าหน้าที่กรุงโซลถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน ว่า มีเจ้าหน้าที่เพียง 137 คนอยู่ในย่านดังกล่าว และมัวแต่มุ่งตรวจหายาเสพติด แทนที่จะมุ่งจัดการกับฝูงชนจำนวนมาก
อี ชางมู ผู้เชี่ยวชาญผังเมือง มหาวิทยาลัยฮันยาง กล่าวว่า สาเหตุการตายครั้งนี้มาจากหายนะฝีมือมนุษย์ หรือ “man-made disaster”
ยุน ฮีกึน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลี แถลงการณ์ว่า เหตุการณ์นี้เป็นความรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง
บทเรียนจากโศกนาฏกรรมที่มีการศึกษามาเป็นอย่างดี เช่น โศกนาฏกรรม Love Parade ในปี 2010 (พ.ศ. 2553) ของเยอรมนี ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 21 ราย ขณะพยายามออกจากพื้นที่คอขวด เป็นบทเรียนว่า หากควบคุมให้ดีจะไม่สูญเสีย
“มันน่าผิดหวังจริง ๆ ที่เห็นว่าแม้จะมีประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด การศึกษาทั้งหมด ข้อสรุปทั้งหมดและทุก ๆ อย่างที่ได้ทำไปแล้ว เกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศอื่น สถานที่อื่น และส่งผลให้มีคนเสียชีวิตอีกจำนวนมาก ” ฮากานีกล่าวเสริม
แก๊สน้ำตาสาเหตุหลัก
เหตุการณ์โศกนาฏกรรมเหยียบกันตายในสนามฟุตบอล อินโดนีเซียเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 135 ราย หลังจากแฟนบอลเจ้าถิ่นประมาณ 42,000 คน กรูลงไปสนามหลังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่สถานการณ์เลวร้ายลงเมื่อตำรวจยิงแก๊สน้ำตา เกิดความโกลาหลขึ้น
ฮากานี กล่าวว่า จากทีมสืบสวนซึ่งตั้งขึ้นโดยประธานาธิบดีโจโค วิโดโด พบว่า แก๊สน้ำตาเป็นสาเหตุหลักของโศกนาฏกรรม เป็นเหตุให้ฝูงชนเกิดความโกลาหล และมีแนวโน้มการต่อสู้กลับในฝูงชน รวมถึงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากขึ้น
ด้านโซฮัตมาน รามลี ประธานองค์การความปลอดภัยโลกของอินโดนีเซีย กล่าวกับเอพี ว่า กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าการที่ไม่มีแผนการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมและแนวทางปฏิบัติในกรณีฉุกเฉินทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง แผนเหล่านี้ควรรวมถึงเส้นทางอพยพ และการจัดการฝูงชนเพื่อควบคุมสถานการณ์โกลาหล
ตำรวจอินโดนีเซีย ระบุว่า สนามกีฬาคานจุรุฮัน เมืองมาลัง ไม่มีใบรับรองการดำเนินงานที่ถูกต้อง และจะมีการดำเนินคดีอาญากับบุคคล 6 คนในข้อหาประมาทเลินเล่อ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 คนที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ถอดถอนผู้บัญชาการตำรวจของจังหวัดชวาตะวันออกและอำเภอมะลัง และสั่งพักงานเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ฐานละเมิดจรรยาบรรณวิชาชีพ
สะพานมรณะ
โศกนาฏกรรมสะพานแขวนถล่มในรัฐคุชราตของอินเดีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 134 ราย ทางการอินเดียได้ประกาศจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 ราย รวมถึงผู้จัดการของผู้ดำเนินการสะพาน
สะพานดังกล่าวมีอายุ 143 ปี เปิดทำการขึ้นอีกครั้งเมื่อ 4 วันก่อนเกิดเหตุ โดยเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้คนเดินทางมายังสะพานแห่งนี้ ในช่วงวันหยุดเทศกาลดิวาลี
จากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า ผู้คนที่อยู่บนสะพานประมาณ 400 คน จังหวะก่อนสะพานถล่ม มีภาพกลุ่มวัยรุ่นชายเขย่าสะพาน จากนั้นสายเคเบิลขาด และเกิดเป็นโศกนาฏกรรมดังกล่าว
ล่าสุดจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายหนึ่ง ออกมาเผยกับหนังสือพิมพ์อินเดียน เอ็กซ์เพรส ว่า บริษัทเปิดสะพานอีกครั้งโดยไม่มีใบรับรองความปลอดภัย
เดิร์ก เฮลบิง ศาสตราจารย์ด้านสังคมศาสตร์เชิงคำนวณที่มหาวิทยาลัย ETH ซูริก ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพลวัตของฝูงชนกล่าวว่า
“ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา วิทยาศาสตร์ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือใหม่ๆ มากมายเพื่อสนับสนุนความปลอดภัยและการจัดการกับฝูงชน จากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นหวังว่าความรู้นี้จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และช่วยหลีกเลี่ยงภัยพิบัติในอนาคต”
……