การค้า “จีน-จิงโจ้” ตึงเครียด ผู้ว่าฯแบงก์ชาติออสซี่ “นั่งไม่ติด”

(AP Photo/Mark Schiefelbein)

ความระหองระแหงระหว่าง “จีน-ออสเตรเลีย” ตั้งแต่ปลายปี 2017 กำลังสร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจของออสเตรเลีย โดย “ฟิลิป โลว์” ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติมองว่า เศรษฐกิจแดนจิงโจ้กำลังเข้าสู่ภาวะเสี่ยง หากยังไม่เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน ส่วนภาคธุรกิจปัจจุบันเริ่มได้รับผลกระทบ

ความบาดหมางเริ่มลามเข้าสู่เวทีการค้า หลัง “มัลคอล์ม เทิร์นบูล” นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เสนอร่างกฎหมายจำกัดอิทธิพลของต่างชาติในการบริจาคทางการเมือง เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันการแทรกแซงจากภายนอก เพราะกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้น

นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติ กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาของสถาบันความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-จีน ที่ซิดนีย์ ระบุว่าผู้ส่งออกออสเตรเลียกำลังกังวลกับความสัมพันธ์ของจีนและออสเตรเลีย จากสัปดาห์ก่อนที่ผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ของออสเตรเลียเผชิญกับความล่าช้าแบบผิดปกติ

ด้านศุลกากรของจีน อาจเป็นหนึ่งในการขีดกันทางการค้า เพื่อเอาคืนรัฐบาลแคนเบอร์ราแรงปะทะในการค้าจีน-ออสเตรเลียชัดเจนขึ้น หลังจากที่ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวในการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินา ระบุว่า รัฐบาลแคนเบอร์รา ควรปรับมุมมอง”ทางลบ” ที่มีต่อจีน เพื่อให้ความสัมพันธ์กลับคืนสู่ปกติ

โลว์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของจีนถือว่าเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่กระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของออสเตรเลีย ขณะที่ตลาดส่งออกเกือบ 1 ใน 3 ก็คือตลาดจีน อาทิ ไวน์ เนื้อวัว เหล็กและถ่านหิน ส่วนการนำเข้าจากจีนคิดเป็น 1 ใน 5 ของทั้งหมด

“เราส่งออกไปจีนมากกว่าประเทศอื่น ความผิดพลาดบางอย่างทางการค้าตอนนี้ จะกระทบต่อธุรกิจออสเตรเลียในวงกว้าง”

นอกจากนี้ ออสเตรเลียได้ส่งออก “ภาคบริการ” เช่น การศึกษาและการท่องเที่ยวไปจีน ซึ่งเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% เมื่อเทียบกับตลาดอื่น อย่าง สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา

ขณะที่ปีก่อนมีนักท่องเที่ยวจีนมาออสเตรเลียสูงถึง 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 400,000 คนในปี 2009 รวมทั้งเดิมมีเพียง 4 สายการบินที่บินระหว่างจีน-ออสเตรเลีย ปัจจุบันเพิ่มเป็น 15 สายการบิน นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่เข้ามาอยู่ในออสเตรเลียนานที่สุดต่อหนึ่งทริป และมีการใช้จ่ายนั้นสูงกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ

ผู้ว่าการได้กล่าวถึงบทบรรณาธิการจากสื่อทางการของจีน “โกลบอลไทมส์” ว่า บ่งชี้อย่างมีนัยจากฝั่งจีนเพราะระบุชัดว่า “จีนควรลดระดับความสัมพันธ์ รวมถึงลดโควตาการนำเข้า และเมื่อปีก่อนออสเตรเลียส่งออกมาจีน มูลค่า 76,450 ล้านดอลลาร์

หากปักกิ่งพิจารณาลดการนำเข้าจากออสเตรเลียราว 6,450 ล้านดอลลาร์ อาจทำให้แดนจิงโจ้กระตือรือร้นที่จะรักษาความสัมพันธ์”

ขณะที่นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูล มีแผนจะเดินทางเยือนจีนปลายปีนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจเกี่ยวกับการค้า เพื่อบรรเทาความบาดหมางนี้