มีผลวันนี้! ทรัมป์ไล่บี้ “อิหร่าน” คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบใหม่

ในวันนี้ 7 ส.ค. รายงานจากต่างประเทศมุ่งประเด็นไปที่ “มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน” รอบใหม่ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ นำมาตรการลงโทษอิหร่านกลับมาใช้ใหม่ พร้อมตำหนิอิหร่านว่ามี ระบบเผด็จการที่โหดเหี้ยม ซึ่งแผ่ขยายความรุนแรง และสร้างความวุ่นวายจนเกิดการนองเลือด

ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ อ้างว่า ความตกลงฉบับก่อนหน้านี้สมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา เรื่องการลดทอนศักยภาพทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน เป็นความตกลงที่ใช้ไม่ได้ และ “ล้มเหลว” ในการสะกัดกั้นไม่ให้อิหร่านประสบความสำเร็จในโครงการนิวเคลียร์

ดังนั้น มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมยานยนต์ การค้าทองและโลหะมีค่า และธุรกรรมการเงิน รวมถึงการส่งออกน้ำมันซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ

โดยนายทรัมป์ ระบุว่าการใช้มาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลต่อรายได้ของอิหร่าน อันกระทบต่อเม็ดเงินมหาศาลที่จะนำมาสนับสนุนการพัฒนาขีปนาวุธ ช่วยขบวนการก่อการร้าย และหนุนให้เกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การแซงค์ชั่นรอบใหม่นี้จะสร้างความกังวลต่อเสถียรภาพของค่าเงินเรียล ของอิหร่านโดยตรง และจะทำให้รายได้ของอิหร่านลดลงอยู่มาก

อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ร่วมตกลงกับอิหร่านเมื่อ 3 ปีก่อน ยืนยันว่าจะยังคงยึดถือเงื่อนไขเดิม และประสงค์จะช่วยเจรจาและลดผลกระทบจากการคว่ำบาตรรอบใหม่ของผู้นำสหรัฐฯ

ขณะที่ รัสเซียและจีน ผู้ร่วมลงนามอีก 2 ประเทศ จะยังคงสนับสนุนความตกลงนิวเคลียร์เดิมกับรัฐบาลเตหะราน ส่วนทางการปักกิ่งยืนยันจะไม่ปรับลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ตามคำเรียกร้องของทรัมป์