รอยเตอร์สรายงานว่า องค์การสหประชาชาติหรือ หรือ ยูเอ็น ประกาศรายชื่อ 38 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศจีน และรัสเซีย เป็นประเทศที่ “น่าอับอาย” ที่ข่มขู่ หรือตอบโต้ประชาชนที่ให้ความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชน ด้วยการฆ่า ทรมาน และจับกุมตัว
นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในรายงานระบุว่า “โลกเป็นหนี้ให้กับประชาชนผู้กล้าหาญที่ลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน การลงโทษบุคคลที่ให้ความร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติถือเป็นการกระทำที่น่าละอาย”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
สำหรับทั้ง 38 ประเทศนี้ มี 29 ประเทศที่เป็นเพิ่มถูกเพิ่มเข้ามาเป็นเคสใหม่ และอีก 19 ประเทศเป็นประเทศที่มีชื่ออยู่ในบัญชีต่อเนื่องอยู่แล้ว
โดย 29 ประเทศ ที่ถูกเพิ่มเข้ามามีดังนี้ บาห์เรน แคมเมอรูน จีน โคลอมเบีย คิวบา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จิบูตี อียิปต์ กัวเตมาลา กายอานา ฮอนดูรัส ฮังการี อินเดีย อิสราเอล คีกีซสถาน มัลดีฟ มาลี โมร็อกโก เมียนมา ฟิลิปปินส์ รัสเซีย รวันดา ซาอุดีอาระเบีย ซูดานใต้ ไทย ตรินิแดดและโตเบโก ตุรกี เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา
ทั้งนี้รายงานยังระบุว่า รัฐบาลเหล่านี้กล่าวหานักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนว่าเป็นพวกก่อการร้าย หรือเป็นพวกที่ร่วมมือกับหน่วยงานตามประเทศเพื่อสร้างความเสียหายต่อชื่อเสีย และความมั่นคงของชาติ อีกทั้งรัฐยังมีแนวโน้มที่จะใช้ข้อโต้แย้งด้านความมั่นคงของชาติ และกลยุทธ์การต่อต้านการก่อการร้าย เพื่อปิดกั้นการเข้าถึงชุมชนและองค์กรภาคประชาสังคมต่อสหประชาชาติ
