วันที่ 4 มี.ค. เดลีเมล์รายงานว่า ทางการออสเตรเลียเริ่มใช้กฎหมายใหม่ให้อำนาจรัฐบาลสกัดกั้นชาวต่างชาติและเพิกเถอนวีซ่าย้อนหลังต่อบุคคลต่างชาติผู้มีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวกับการทำร้ายสตรีและเด็ก
กฎหมายดังกล่าวได้รับการเสนอและผลักดันโดยนายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง หลังกฎหมายที่มีอยู่แล้วนั้นไม่เพียงพอ เดิมให้อำนาจรัฐบาลเพิกถอนวีซ่าบุคคลต่างชาติในกรณีที่บุคคลดังกล่าวเคยรับโทษจำคุกมาอย่างน้อย 12 เดือน หรือสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่านในกระบวนการขอวีซ่าเข้าประเทศ
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
ทั้งยังเกิดขึ้นหลังคดีที่ศาลปกครองชั้นอุทธรณ์กลับคำตัดสินกรณีที่รัฐบาลออสเตรเลียเพิกถอนวีซ่าของนักท่องเที่ยวชาวดัตช์ หลังจากพบว่าอยู่ระหว่างรอลงอาญาโทษจำคุก 30 วัน ในประเทศเนเธอร์แลนด์ จากคดีประทุษร้ายเด็กและสตรี
นายโคลแมน กล่าวว่า กฎหมายข้างต้นสะท้อนความร้ายแรงของการประทุษร้ายเด็กและสตรี เพราะส่งผลให้เกิดความบอบช้ำต่อจิตใจของเหยื่อเป็นเวลานาน บางรายอาจต้องทนทุกข์ไปทั่วชีวิต และส่งผลกระทบต่อทั้งเพื่อน ครอบครัวและญาติมิตรของเหยื่อ
“การเดินทางเข้ามา และการมาอยู่อาศัยในออสเตรเลียนั้นถือเป็นสิทธิพิเศษ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาจึงต้องเป็นบุคคลที่เคารพกฎหมายทั้งในของประเทศตัวเอง และของประเทศอื่นอย่างเคร่งครัด”
ที่มา : ข่าวสด