สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า “แม็กซีน วอเตอร์ส” (Maxine Waters) ผู้แทนจากพรรคเดโมแครต ประธานคณะกรรมาธิการบริหารด้านการเงินของสหรัฐอเมริกา ได้เรียกร้องให้ “เฟซบุ๊ก” ทบทวนการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) ที่เฟสบุ๊กกำลังพัฒนาขึ้นในชื่อว่า “ลิบรา” (Libra) ที่วางแผนจะเปิดใช้งานในปี 2020
วอเตอร์ส ยังระบุว่า “เมื่อพิจารณาปัญหาที่ผ่านมาของบริษัทเฟสบุ๊ก ดิฉันขอเรียกร้องให้เฟสบุ๊กหยุดการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลชั่วคราว จนกว่ารัฐสภาและหน่วยงานกำกับดูแลได้ตรวจสอบพิจารณาก่อน”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทั้งนี้ แพทริค แมคเฮนรี (Patrick McHenry) ผู้แทนของพรรครีพับลิกันในคณะกรรมธิการดังกล่าว เป็นผู้เสนอให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก่อนหน้านี้ “ขณะที่มีการยืนยันว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะสามารถส่งเสริมการรวมตัวทางการเงิน และการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา แต่ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับขอบเขตและขนาดของการพัฒนานี้ รวมถึงสิ่งนี้จะสอดคล้องกับกรอบการกำกับดูแลด้านการเงินทั่วโลกของเราอย่างไร”
“แมคเฮนรี” ยังระบุเพิ่มเติมว่า “เราต้องก้าวไปให้ไกลกว่าข่าวลือและการคาดการณ์ แต่ต้องเป็นหารือกันเพื่อประเมินโครงการนี้และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบการเงิน”
ขณะที่ เชอร์ร็อด บราวน์ (Sherrod Brown) สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ได้แสดงความกังวลผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “เฟสบุ๊กมีขนาดใหญ่และทรงพลังมากเกินไป และใช้พลังนั้นในการใช้ประโยชน์จากผู้ใช้งานโดยไม่มีการปกป้องความเป็นส่วนตัว เราไม่สามารถอนุมัติให้เฟสบุ๊กเรียกใช้สกุลเงินดิจิทัลใหม่ที่มีความเสี่ยงสูงโดยไม่มีการกำกับดูแล”
มาร์ค เวอร์เนอร์ (Mark Warner) วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตชี้ว่า ชาวอเมริกันได้สูญเสียความไว้วางใจของเฟสบุ๊กในการรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเขาไปแล้ว
“ความคิดที่ว่าเราจะแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินกับเฟสบุ๊กนั้น ผมคิดว่าบริษัทมีความพยายามครั้งใหญ่ในการพยายามโน้มน้าวใจชาวอเมริกัน ให้เชื่อมั่นเฟสบุ๊กในการเก็บรักษาความลับของเขา” เวอร์เนอร์กล่าว
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เฟสบุ๊กได้เปิดตัวสกุลดิจิทัลลิบรา ที่ได้พัฒนาขึ้นร่วมกับอีกหลายบริษัทในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยผู้ใช้งานสามารถใช้สกุลเงินดังกล่าวในการโอนเงินให้กับเพื่อนหรือร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ และยังมีระบบกระเป๋าเงินออนไลน์เรียกว่า “คาลิบรา” (Calibra) ในการจัดเก็บและแลกเปลี่ยนสกุลเงินออนไลน์ ทั้งนี้ตัวแทนของเฟสบุ๊กกล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า “เราหวังว่าจะได้ตอบข้อสงสัยของสมาชิกรัฐสภา ขณะที่กระบวนการพัฒนายังดำเนินต่อไป”