“นิวซีแลนด์” ปรับลดคาดการณ์จีดีพีเหลือ 2.3% เตรียมแผนลงทุนภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (11 ธ.ค.62) ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของปี 2019 จะอยู่ที่ 2.3% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.2% สอดคล้องกับนักเศรษฐศาสตร์จากหลายสำนักซึ่งประเมินว่าการเติบโตของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ในปีนี้จะต่ำกว่า 3%

นอกจากนี้กระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ ยังประกาศแผนเตรียมจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอ้างถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากสาเหตุสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงความไม่แน่นอนของการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือ “เบร็กซิต”

“แกรนท์ โรเบิร์ทสัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ ได้กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจำนวนเงิน 12,000 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ นับว่าเป็นการลงทุนของภาครัฐจำนวนมากที่สุดในรอบมากกว่า 20 ปี โดยเป็นการลงทุนทางด้านระบบคมนาคม 6,800 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ยังมีการคาดการณ์อีกว่า งบประมาณปี 2019/2020 จะขาดดุลประมาน 900 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ซึ่งน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1,300 ล้านนิวซีแลนด์ดอลลาร์ โดยทางกระทรวงคลังประกาศว่าจะบริหารหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบ 15%-20% ต่อจีดีพี

ขระเดียวกัน รัฐบาลนิวซีแลนด์จัดทำงบประมาณแบบสมดุลติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2017 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังเผชิญแรงกดดันให้เพิ่มรายจ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ นายโรเบิร์ทสัน ได้กล่าวย้ำว่า “รัฐบาลนิวซีแลนด์มีสถานะทางการคลังที่แข็งแกร่ง อีกทั้งในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของในอนาคตได้”