สำนักข่าวบีบีซีรายงานสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียระบุว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออก ซึ่งช่วยให้ไฟมอดดับลงมากขึ้นราวหนึ่งในสามของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ฝนตกหนักก็ก่อให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในนครซิดนีย์และอีกหลายเมืองตามแนวชายฝั่ง
โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียออกคำเตือนว่า สภาพอากาศชื้น ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และระดับน้ำสูงผิดปกติในหลายพื้นที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยมีปริมาณน้ำฝนสูงกว่า 280 มม. ซึ่งบางพื้นที่ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ไฟป่าจะมีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในรอบปี ขณะที่นครซิดนีย์เองก็มีฝนตกชุกที่สุดในรอบ 15 เดือน โคลเวอร์ มัวร์นายกเทศมนตรีของซิดนีย์ระบุในทวิตเตอร์ว่า “มันยอดเยี่ยมมากที่ได้ตื่นมาพร้อมกับสายฝนที่เป็นที่ต้องการมากในเช้าวันนี้”
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ทั้งนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ประสบภัยแล้งในหลายพื้นที่มานานมากกว่า 3 ปี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟไหม้ป่ารุนแรงมายาวนานตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งสถานการณ์ฝนตกคาดว่าอาจกินเวลายาวนานถึงหนึ่งสัปดาห์ อังเกล่า เบอร์ฟอร์ด โฆษกของหน่วยดูแลบริการดับไฟป่าระบุว่า “นี่คือปริมาณน้ำฝนสม่ำเสมอ คงที่ และเหมาะสม ซึ่งเราเฝ้าคอยภาวนามาอย่างยาวนาน”
“นี่ไม่ใช่แค่ฝนเบาบางกระจัดกระจายอย่างที่เราได้เห็นเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เป็นฝนที่ช่วยให้นักดับเพลิงได้มีโอกาสพักผ่อนบ้างในบางพื้นที่” เบอร์ฟอร์ดกล่าว อย่างไรก็ตาม พื้นที่ไฟไหม้ขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของรัฐและใกล้กับกรุงแคนเบอร์ร่า เมืองหลวงของออสเตรเลีย จะยังคงมีปริมาณน้ำฝนที่ไม่มากนักและยังมีความน่ากังวลอยู่
ทั้งนี้ เชน ฟิตซ์ซิมมอนส์ กรรมาธิการเมืองของหน่วยดูแลบริการดับไฟป่าระบุว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้งอาจจะกลับมาอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และอาจยาวนานไปจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งที่ผ่านมาสถานการณ์ไฟป่าได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 33 ราย และสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนกว่า 1,000 หลังในพื้นที่ 11 ล้านเฮกตาร์