“ธนาคารโลก” ตั้งงบ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ช่วย “ประเทศกำลังพัฒนา” ต้านโควิด-19

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า “ธนาคารโลก” ตั้งกองทุนงบประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือ “ประเทศกำลังพัฒนา” ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือ “โควิด-19” โดยงบประมาณดังกล่าวจะถูกนำไปกระจายในลักษณะสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และความช่วยเหลือด้านเงินทุน รวมถึงการช่วยเหลือทางเทคนิคด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของธนาคารโลกเกิดขึ้นหลังจากที่มีคำเตือนว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยการช่วยเหลือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในการปรับปรุงระบบสาธารณสุขเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตจากโรคระบาด รวมถึงการประสานงานกับเอกชนเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วย

นายเดวิด มาลแพาส ประธานกลุ่มธนาคารโลกระบุว่า “สิ่งที่เราพยายามทำคือการจำกัดการแพร่ระบาดของโลก” โดยธนาคารโลกจะมีการจัดลำดับประเทศยากจนและมีความเสี่ยงต่อการระบาดมากที่สุดกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดยงบประมาณดังกล่าวประมาณครึ่งหนึ่งมาจากธนาคารในกลุ่มบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (International Finance Corporation)

ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 92,000 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,000 รายทั่วโลก ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน “จีนแผ่นดินใหญ่” ซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 80,000 คน สำหรับการระบาดนอกประเทศจีนส่วนใหญ่อยู่ใน “เกาหลีใต้” ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 5,328 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 33 ราย

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ที่มีอาการป่วยอยู่แล้วเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากไวรัส โดยจากการวิเคราะห์กรณีผู้ติดเชื้อ 44,000 รายในจีน พบว่า ผู้สูงอายุมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าวัยกลางคนถึง 10 เท่า

นอกจากนี้ WHO ยังออกคำเตือนว่า ราคาของอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสอย่างหน้ากากอนามัยและถุงมือกำลังเพิ่มสูงขึ้น จากปัญหาการขาดแคลนทั่วโลก โดย WHO ขอให้รัฐบาลและบริษัทเอกชนเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 40%