รัฐบาลปักกิ่งห้ามชาวจีนแสดงพฤติกรรมไร้อารยธรรม

File Photo (Photo by STEPHEN SHAVER / AFP)

วันที่ 26 เมษายน 2563 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า รัฐบาลกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกกฎหมายห้ามประชาชนทำพฤติกรรมที่ไร้อารยธรรม หรือ ไม่ศิวิไลซ์ เช่น การไอหรือจามโดยไม่ปิดปากและจมูก ซึ่งถือเป็นแนวทางปฏิบัติรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับด้านสุขลักษณะของประชาชน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

รายงานดังกล่าว ระบุว่า กฎหมายนี้มีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชน มีพฤติกรรมที่มีอารยธรรม และ เกี่ยวเนื่องกับการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเฉพาะในจีน มีผู้ป่วยมากกว่า 82,000 ราย

โดยเว็บไซต์ของรัฐบาลปักกิ่ง เผยว่า ผู้ที่ฝ่าฝืน เช่น การไม่ใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเมื่อมีอาการป่วย จะต้องถูกปรับ

นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดให้พื้นที่สาธารณะต่าง ๆ จัดทำจุดระยะห่าง 1 เมตรเอาไว้ และ ต้องจัดหาตะเกียบและช้อนกลาง เมื่อมีการกินอาหารร่วมกันเอาไว้ และ ทุกคนจะต้องสวมเสื้อผ้า ห้ามถลกเสื้อในที่สาธารณะ ซึ่งเรียกกันว่า “ปักกิ่ง บิกินี” ซึ่งชาวจีนมักจะชอบม้วนเสื้อของตัวเองขึ้นมาเหนือพุง เพื่อคลายความร้อน

ด้าน โกลบอล ไทม์ส รายงานว่า กฎดังกล่าวเป็นคำสั่งห้ามกระทำในที่สาธารณะทั้งหมด

ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวเพิ่งผ่านความเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 เมษายน และ ได้มีการเพิ่มการลงโทษเอาไว้ เช่น การทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง การถุยน้ำลาย และ การถ่ายอุจจาระในที่สาธารณะ จะถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 200 หยวน หรือประมาณ 900 บาท จากเดิมที่ปรับเป็นเงินเพียง 50 หยวน หรือราว 230 บาท

ข้อมูล มติชน