‘แคร์รี่ ลัม’ จี้อเมริกาอย่า ‘สองมาตรฐาน’ การประท้วงฮ่องกง-สหรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นางแคร์รี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง กล่าวหาว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังเลือกปฏิบัติแบบ “สองมาตรฐาน” ต่อกรณีการรับมือกับการประท้วงอย่างรุนแรงในสหรัฐ แต่กลับดำเนินการเพิกถอนสิทธิพิเศษทางการค้าของฮ่องกง หลังจากที่รัฐบาลจีนพยายามออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อใช้ควบคุมการประท้วงรุนแรงในฮ่องกง

โดยนางลัมกล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์กล่าวถึงรัฐบาลสหรัฐว่า “พวกเขากังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติของพวกเขา แต่สำหรับความมั่นคงของชาติของเรา พวกเขากลับมีมุมมองที่ต่างออกไป” พร้อมทั้งระบุด้วยว่า “ขณะนี้มีการจลาจลในสหรัฐและเราได้เห็นแล้วว่ารัฐบาลท้องถิ่นมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่ก่อนหน้านี้ที่เรามีการจลาจลที่คล้ายกันในฮ่องกง เราก็ได้เห็นจุดยืนที่แตกต่างของพวกเขา”

ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงในสหรัฐมีชนวนเหตุมาจากการใช้ความรุนแรงต่อชาวแอฟริกันอเมริกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว ส่งผลให้มีผู้ออกมาชุมนุมประท้วงเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งหลายเมืองของสหรัฐต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และระดมกองกำลังพิทักษ์ชาติครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมาก

ซึ่งในหลายพื้นที่ของสหรัฐได้มีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมีการใช้ความรุนแรง การปิดกั้นเส้นทางสัญจร การปล้นสะดมร้านค้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อควบคุมฝูงชน

ปฏิกิริยาของแคร์รี ลัมครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศเริ่มกระบวนการเพิกถอนสิทธิพิเศษทางการค้าที่ให้กับฮ่องกง จากความไม่พอใจที่รัฐบาลจีนเดินหน้าร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งอาจกระทบสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกงและภาคธุรกิจในพื้นที่ แม้ผู้นำฮ่องกงเตือนว่าการยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าดังกล่าวจะกระทบต่อภาคธุรกิจของสหรัฐเองด้วย