ค้าปลีกจีนทะยาน คนรวยแห่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ยอดขายรถหรูพุ่ง

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มกลับมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการบริโภคของจีนเริ่มฟื้นตัวจากยอดการค้าปลีกที่เติบโตเป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เป็นการฟื้นตัวอย่างไม่สมดุล เนื่องจากเป็นการเติบโตจากสินค้าฟุ่มเฟือยของกลุ่มผู้บริโภคที่มีฐานะเป็นหลัก ขณะที่ชาวจีนซึ่งมีฐานะยากจนยังต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย โดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีการขยายโต เช่น รถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มอาหาร เสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ

แม้ว่าอุปทานของเศรษฐกิจจีนแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น แต่ยังต้องอาศัยการฟื้นตัวด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนในทุกกลุ่มสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าจะสามารถควบคุมได้ แต่จากการสูญเสียรายได้และตกงาน ทำให้ชาวจีนที่ยากจนยังไม่มีรายได้ไม่เพียงพอในการใช้จ่าย

“เหอ เว่ย นักวิเคราะห์จาก Gavekal Dragonomics กล่าวว่า ครอบครัวที่มีรายได้สูง พร้อมที่กลับมาใช้จ่ายอย่างเต็มที่อีกครั้ง ขณะที่ครอบครัวซึ่งมีรายได้น้อยจะต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินในระยะยาวมากขึ้น

รายงานของ “บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป” ระบุว่า ปีนี้การใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยในจีนจะเพิ่มขึ้น 20-30% โดยส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มผู้บริโภคใน 50 เมืองใหญ่ที่ร่ำรวยที่สุด ขณะที่ประชากรในอีก 2,206 เมือง พบว่ามีการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเพียง 1 ใน 4 ของสินค้าทั้งหมดตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม โดยเป็นการใช้จ่ายที่ลดลงถึง 4% เมื่อเทียบกับปี 2019

โดยพบว่าตลาดรถยนต์มีการฟื้นตัวที่ไร้สมดุล เมื่อยอดขายรถหรูมีการฟื้นตัวเร็วกว่ารถยนต์ทั่วไปมาก โดยพบว่าช่วงที่ผ่านมายอดขายรถหรูสูงถึงเกือบ 1 ใน 5 ของยอดขายรถทั้งหมด

ขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยวไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นตัวได้ในเร็วๆนี้ ตามรายงานข้อมูลของเมืองใหญ่ที่สุดในจีน 11 แห่ง ระบุว่า ชาวจีนยังคงระมัดระวังในเรื่องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยในช่วงเทศกาลหยุดยาวซึ่งเป็นวันชาติของจีนตั้งแต่วันที่ 1-8 ตุลาคมนี้ จะเป็นตัวชี้วัดที่แสดงความพึงพอใจของชาวจีนในการใช้จ่ายกับการท่องเที่ยว

ทั้งนี้สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลจีน รายงานว่า ยอดการจองที่พักเพิ่มขึ้น แต่ไม่น่าสูงถึงระดับเดียวกับเดือนตุลาคมปี 2018 และ 2019 ซึ่งมีสัดส่วนการเดินทางมากกว่า 1.5 พันล้านครั้ง