เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มลพิษคร่าชีวิตผู้คนบนโลกไปมากถึง 9 ล้านคนในปี 2558 หรือคิดเป็น 1 ในทุกๆ 6 รายของการเสียชีวิตในปีดังกล่าว โดยมากถึงร้อยละ 92 ของการเสียชีวิตในประเทศที่มีรายได้ต่ำ-ปานกลางมาจากสาเหตุมลพิษทางอากาศ ที่มีผู้เสียชีวิตรวมกันราว 6.5 ล้านคน และในจำนวนผู้เสียชีวิตจากมลพิษมากถึงเกือบครึ่งอยู่ใน 2 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดคือ จีนและอินเดีย
รายงานการศึกษาเกี่ยวกับภาวะมลพิษที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกนี้ถูกเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ แลนเซ็ต เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ระบุอีกว่า ในประเทศที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมไปอย่างรวดเร็วเช่น อินเดีย ปากีสถาน จีน บังกลาเทศ มาดากัสการ์ และ เคนยา มลพิษได้คร่าชีวิตผู้คนคิดเป็น 1 ในทุก 4 รายของการเสียชีวิต
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
รายงานชี้อีกว่า มลพิษร้ายแรงที่สุดที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 2 ใน 3 ของการเสียชีวิตจากมลพิษ คือ มลพิษทางอากาศ ที่มีทั้งมลพิษนอกบ้านที่เกิดจากโรงงานและรถยนต์ และมลพิษในบ้านที่เกิดจากการเผาไม้ ถ่าน การเผามูลสัตว์และซากพืชเพื่อให้ความร้อนและการหุงต้มอาหาร รองลงมาเป็นมลพิษทางน้ำที่คร่าชีวิตผู้คนราว 1.8 ล้านคน มลพิษจากสถานที่ทำงานที่รวมถึงการปล่อยสารพิษและสารก่อมะเร็งซึ่งเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายของผู้เสียชีวิตราว 0.8 ล้านราย ที่รวมถึงการทำให้เป็นโรคฝุ่นจับปอด (pneumoconiosis) ในกลุ่มคนงานถ่านหิน โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในกลุ่มคนงานย้อมผ้า โรคใยหินและมะเร็งปอดในกลุ่มคนงานที่สัมผัสแร่ใยหิน ขณะที่มลพิษจากตะกั่วเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคน 0.5 ล้านราย ที่ทำให้ผู้ได้รับมลพิษจากตะกั่วเข้าไป มีความดันเลือดสูง ไตล้มเหลว และเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
นายการ์ตี สันดิลยา ผู้ร่วมเขียนรายงานการศึกษาชิ้นนี้กล่าวว่า มลพิษและโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมักจะส่งผลต่อกลุ่มคนที่ยากจนและอ่อนแอ และผู้เป็นเหยื่อก็มักเป็นกลุ่มคนเปราะบางและไร้เสียง ส่งผลให้ปัญหามลพิษคุกคามสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของเราด้วยทั้งสิทธิในการดำรงชีวิต สุขภาพ สวัสดิภาพความเป็นอยู่ การทำงานที่ปลอดภัย ตลอดจนคุกคามการปกป้องเด็กๆและผู้ที่อ่อนแอ
ที่มา มติชนออนไลน์