หายนะ “อังกฤษ” โควิดพันธุ์ใหม่+เบร็กซิต

เทศกาลคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะเฉลิมฉลอง แต่คริสต์มาสปีนี้ที่สหราชอาณาจักร (ยูเค) ประชาชนต้องเจอปัญหาการระบาดของ “โควิดสายพันธุ์ใหม่” และอนาคตที่ไม่แน่นอนเมื่ออังกฤษต้องออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือที่เรียกว่า “เบร็กซิต” อย่างเป็นทางการ และทำให้สิทธิทางการค้ากับอียูหมดอายุสิ้นปี

“บอริส จอห์นสัน” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงการณ์เมื่อ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า พบการระบาดของโรคโควิด-19 “สายพันธุ์ใหม่” ซึ่งเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่ทำให้อัตราการระบาดรุนแรงกว่าเดิมถึง 70%

โดยหลังแถลงการณ์นี้ รัฐบาลอังกฤษได้สั่งล็อกดาวน์ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับเข้มงวดที่สุดในกรุงลอนดอน และแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และขณะนี้มีมากกว่า 40 ประเทศได้ยกเลิกไฟลต์ที่บินมาจากอังกฤษ ไม่ให้ผู้ที่เดินทางจากอังกฤษเข้าประเทศ หรือในกรณีของฝรั่งเศส ได้ปิดชายแดนของประเทศเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ทำให้เกิดปัญหารถบรรทุกขนส่งสินค้าไม่สามารถข้ามชายแดนได้อยู่เกือบ 4,000 คัน

และถึงแม้จะเปิดชายแดนแล้ว แต่ยังคงมีมาตรการคัดกรองตามจุดชายแดนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ทำให้แถวรถบรรทุกยังคงยาวเหยียดอยู่

ในเวลาเดียวกัน อังกฤษกำลังอยู่ในขั้นตอนการ “เบร็กซิต” โดยวันที่ 31 ธ.ค. จะเป็นวันที่ “ข้อตกลงทางการค้า” ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (อียู) หมดอายุ กล่าวคือ สิทธิประโยชน์ทางการค้าต่าง ๆ ที่อังกฤษเคยมีกับอียูจะสิ้นสุดลง ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายพยายามเจรจาข้อตกลงทางการค้าใหม่ เพื่อให้อังกฤษยังมีสิทธิประโยชน์ทางการค้าเหนือประเทศอื่นนอกอียูได้

แต่จนถึงวันนี้อังกฤษก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่กับอียูได้ ทำให้เสี่ยงจะเป็น “โนดีลเบร็กซิต” หมายถึง การเสียสิทธิทางการค้ากับอียูและต้องอยู่ภายใต้กฎหมายการค้าโลก

บีบีซีรายงานว่า ถึงแม้รัฐบาลอังกฤษจะมั่นใจว่าสามารถแก้ปัญหาทั้งสองได้ และรณรงค์ไม่ให้ผู้คนแตกตื่น แต่อนาคตที่ไม่แน่นอนทำให้ชาวอังกฤษเริ่ม “กักตุน” สินค้าที่จำเป็นต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ามาตรการของฝรั่งเศสที่ปิดชายแดน และผลกระทบจาก “โนดีลเบร็กซิต” จะทำให้สินค้าขาดตลาด โดยล่าสุดห้างสรรพสินค้าอย่าง “เทสโก้” และ “เซนต์เบอรี่” ได้ออกมาตรการจำกัดจำนวนสินค้าบางชนิดที่สามารถซื้อได้

อย่างไรก็ดี ยักษ์ค้าปลีกยืนยันว่ามีสินค้าเพียงพอ แต่เป็นมาตรการเพื่อให้ “ลดอุปสงค์” เพราะห้างค้าปลีกได้เตรียมสต๊อกสินค้าชนิดต่าง ๆ มาก่อนหน้านี้ แต่อาจมีสินค้าประเภทผักสดบางชนิดที่จะขาดแคลน เนื่องจากการปิดชายแดนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้รถบรรทุกไม่สามารถนำเข้าสินค้าเหล่านี้ได้

ประธานสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก กล่าวว่า หากรถบรรทุกเปล่าไม่สามารถเดินทางออกจากอังกฤษ เพื่อไปบรรทุกสินค้ากลับเข้ามาได้ สินค้าจำพวกผักและผลไม้สดจะเริ่มขาดตลาดตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.เป็นต้นไป

ขณะที่สหพันธ์อาหารและเครื่องดื่มของอังกฤษ กล่าวว่า การปิดกั้นชายแดนของฝรั่งเศสทำให้ชาติอื่น ๆ อาจเสียความเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะหลังเบร็กซิตมีหลาย ๆ ปัจจัยที่ซับซ้อนขึ้น และโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอย่างหนักอาจทำให้สินค้าของอังกฤษไม่ได้รับการยอมรับ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกได้ พร้อมระบุว่าการที่รถบรรทุกต่อคิวกันยาวเหยียดเพื่อเข้าและออกประเทศ อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต ถ้าหากอังกฤษไม่มีข้อตกลงทางการค้าใหม่กับอียูได้หลังจากนี้

ถ้าอังกฤษยังเผชิญกับการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ พร้อมกับความเสี่ยงที่จะไม่มีข้อตกลงทางการค้าใหม่ในปีหน้าจะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับสูงขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะหากอังกฤษออกจากอียูแล้วโดยไม่มีข้อตกลงใหม่ ภาษีนำเข้าสินค้าที่ตามมาอาจจะทำให้ผู้ประกอบการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น และซ้ำเติมด้วยการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้การนำเข้าสินค้ามีกระบวนการขั้นตอนยุ่งยากล่าช้า ทำให้ราคาสินค้ามีโอกาสพุ่งขึ้นไปมากกว่าเดิมอีก

ต้องมารอดูกันว่ารัฐบาลอังกฤษจะสร้างปาฏิหาริย์แก้วิกฤตที่ซับซ้อนนี้ได้หรือไม่