หน้าที่ของเรือพระที่นั่ง 4 ลำในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 12 ธันวาคมนี้

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคมนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร

ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้มีเรือพระราชพิธีเข้าร่วมขบวนทั้งหมด 52 ลำ ใช้กำลังพลประจำเรือรวม 2,399 นาย เป็นกำลังพลฝีพาย 2,200 นาย และกำลังพลที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง และนักดนตรีประจำเรือ 199 นาย

การจัดรูปขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นการจัดรูปขบวนตามโบราณราชประเพณี โดยแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย คือ ริ้วสายกลาง ริ้วสายใน และริ้วสายนอก

เรือที่สำคัญในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค คือเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ อยู่ในริ้วสายกลาง ซึ่งเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำนี้ทำหน้าที่ขบวนแตกต่างกันไป เรียงตามลำดับในขบวน ดังนี้

 

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช  ทำหน้าที่อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญนำหน้าขบวนเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ซึ่งพระพุทธรูปที่อัญเชิญในครั้งนี้ คือ พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ อยู่ลำดับที่ 2 เป็นเรือพระที่นั่งทรงสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ อยู่ลำดับที่ 3 เป็นเรือพลับพลาเปลื้องเครื่องก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯไปประทับเรือพระที่นั่งทรง และเป็นเรือพระที่นั่งทรงสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งในครั้งนี้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงที่ประทับบนเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีฯ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 อยู่ลำดับที่ 4 เป็นเรือพระที่นั่งรอง มีหน้าที่เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนเรือพระที่นั่งทรง เช่น กรณีที่เรือพระที่นั่งทรงเกิดชำรุดก็จะเปลี่ยนมาประทับเรือพระที่นั่งลำนี้