รอยเตอร์สรายงานคำกล่าวของ Harjanto รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในวันนี้ว่า ฮุนได มอเตอร์ วางเเผนที่จะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) ในโรงงานประเทศอินโดนีเซีย โดยเป็นหนึ่งในเเผนลงทุนรถยนต์กว่า 880 ล้านดอลลาร์ ในประเทศ
Harjanto กล่าวกับรอยเตอร์ส ว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลก มีเเผนที่จะสร้างโรงงานแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตประมาณ 250,000 คัน รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า โดยอินโดนนีเซีย มีปริมาณแร่ นิกเกิล-แลทเทอไรท ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในการขับเคลื่อน EVs
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- ศุภวุฒิ สายเชื้อ : แบงก์ชาติเป็นหน่วยงานรัฐ กฎหมายไม่มีคำว่า “อิสระ”
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ระบุว่า แผนดังกล่าวจะมีการส่งออก 53 เปอร์เซ็นต์ของรถยนต์ที่ผลิตในโรงงานฮุนได ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ส่วนที่เหลืออีก 47 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นตลาดภายในประเทศ
ทั้งนี้ การย้ายโรงงานของฮุนได ไปที่โรงงานในอินโดนีเซีย เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ผลิตรถยนต์พยายามลดการพึ่งพากับจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งฮุนไดนั้นได้เข้าร่วมกับบริษัท Kia ผู้ผลิตรถยนต์ ที่กำลังฟื้นตัวในเรื่องยอดขาย หลังการเจรจาระหว่างกรุงโซลกับปักกิ่ง รวมไปถึงการเผชิญกับการเเข่งขันที่รุนเเรงจากคู่เเข่งในท้องถิ่น
รอยเตอร์สรายงานในเดือนสิงหาคมว่า ฮุนได และ Kia กำลังพิจารณาการจัดส่งยานพาหนะที่จีนผลิต ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อจัดการกับยอดขายที่อ่อนแอและกำลังการผลิตส่วนเกินของบริษัท โดยฮุนไดไม่ได้มีโรงงานผลิตรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แม้ว่าจะมีการประกอบกิจการในเวียดนามก็ตาม
โฆษกของฮุนไดกล่าวว่าพวกเขา “ไม่มีข้อคิดเห็นในทันที” เกี่ยวกับแผนในอินโดนีเซีย
รองประธาน Lee Bo Sung ของฮุนได-Kia กล่าวในวันพฤหัสบดี ว่าตลาดอาเซียนมีศักยภาพในการเติบโต แต่ก็ยากที่จะ “เจาะทะลุ” เนื่องจากคู่แข่งจากญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า เเละฮอนด้า
เมื่อเดือนที่ผ่านมาฮุนไดประกาศลงทุนในบริษัทแกร็บของสิงคโปร์ มูลค่ากว่า 250 ล้านดอลลาร์ และวางแผนที่จะให้รถยนต์ EVs คว้าไดรเวอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!