เจาะธุรกิจ “สปากระเป๋าแบรนด์เนม” เข้าวงการแฟชั่นไฮเอนด์ ไม่ยากอย่างที่คิด

รีวิวธุรกิจ

กระเป๋ากับผู้หญิงเป็นของคู่กันและขาดไม่ได้ การมีกระเป๋าสวยๆ ข้างกาย เป็นอีกหนึ่งความสุขของผู้หญิงหลายคน โดยเฉพาะกระเป๋าแบรนด์ดังระดับโลกที่สาวๆ ต่างใฝ่ฝันอยากได้มาครองสักใบสองใบ (และหลายๆ ใบ) ด้วยคุณภาพและดีไซน์ กับราคาหลักหมื่นยันหลักล้าน ทำให้ต้องดูแลทะนุถนอมกันอย่างดี สร้างอีกหนึ่งธุรกิจงานฝีมือที่เฟื่องฟูและทำรายได้งามสุดๆ ในยุคนี้อย่างธุรกิจ “สปากระเป๋า”

ด้วยความที่มีกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่มีกำลังจ่ายสูง และตลาดแบรนด์เนมในเมืองไทยเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจสปากระเป๋า สร้างงานสร้างอาชีพได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

@ความหลงใหลสร้างอาชีพ เส้นทาง “สปากระเป๋า” คู่ “Luxury Brand”

คุยกับผู้คร่ำหวอดในวงการซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนมมากว่า 10 ปีกับ “ปิยะรัตน์ จิตรีญาติ” หรือ ทิพย์ เจ้าของร้าน Cherbelle bag and shoes spa (ซอยอ่อนนุช 17) สาวกกระเป๋าแบรนด์เนมผู้ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจวงการสปากระเป๋า หลังมองเห็นช่องทางสร้างโอกาสจากความชื่นชอบและความสนใจใคร่รู้ ต่อยอดทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ทำสปากระเป๋ามาแล้วกว่า 1,000 ใบ และเปิดสอนคอร์สสอนลูกศิษย์นับร้อยคน แบ่งปันความรู้และเทคนิคให้แก่ผู้ที่มีความมุ่งมั่นจะก้าวเข้ามาสู่เส้นทางนี้

คุณทิพย์ เล่าว่า ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่นชอบการใช้กระเป๋าแบรนด์เนมที่พอใช้แล้วเบื่อก็อยากลองซื้อขาย จากนั้นเริ่มรับซื้อกระเป๋ามือสอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่า “ธุรกิจสปากระเป๋า” คืออะไร โดยสมัยก่อนยังไม่มีธุรกิจนี้มากนัก มีร้านดังๆเพียงไม่กี่ร้าน

“ตอนนั้น เราเริ่มคิดว่ากระเป๋าที่เราใช้ตามปกติ ต้องมีริ้วรอย จึงคิดว่าน่าจะเอาไปทำสปาก่อนขาย ก็เลยติดต่อร้านรับทำในอินสตาแกรม พอทำเสร็จเราแปลกใจมากว่าทำได้อย่างไร สงสัยว่ากลับมาแล้วใหม่มาก ขายต่อราคาก็ปรับขึ้นสูง ราคาไม่ตก จุดนั้นก็เลยตัดสินใจว่าตัวเองจะต้องไปลงเรียนทำสปาเอง จึงไปหาคนที่เปิดสอนเก่งๆ มา 3 ที่ เพื่อเช็กว่าที่เราเรียนมามันถูกต้องไหม หรือมีเทคนิคอื่นอีกหรือไม่”

@ใจต้องกล้า คิดให้ไกล ถ่ายทอดความรู้ขยายธุรกิจ

“ช่วงแรกต้องยอมรับว่าเรามือใหม่ ฝีมือยังไม่เข้าขั้น มีอาการกลัวว่าลูกค้าส่งกระเป๋าใบละ 3 แสนมาให้ มือสั่นเลย เครียด ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าต้องทำงานยังไงแต่ก็กังวล แต่ก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดคือ ในเมื่อเราเรียนมาแล้ว เราก็ทำทุกอย่างตามขั้นตอน ก็เริ่มลงมือและพัฒนามาได้ถึงจุดปัจจุบัน ต้องอาศัยฝีมือและความกล้ามาก ๆ ถึงตอนนี้ก็รับทำสปากระเป๋ามาแล้วกว่า 1,000 ใบ”

ปิยะรัตน์ บอกอีกว่า สมัยก่อนค่าคอร์สเรียนทำสปากระเป๋าแพงมาก ประมาณ 50,000 -100,000 บาท แต่ตอนนี้เราจะสอนแค่หมื่นกว่าบาท

“ตอนนั้นได้เรียนรู้เทคนิคว่า เขาทำสีกันแบบนี้ ขั้นตอนแบบนี้ แต่เราสงสัยไปไกลกว่านั้น คือไปตามหาแหล่งที่เขาขายเคมี ผสมสีใช้อะไร เวลาไปเรียนไม่มีใครบอกจุดเริ่มต้น บอกแค่สีอะไรแต่ไม่มีใครสอนว่าการผสมสี 1 สีเกิดขึ้นมาได้อย่างไร คนก็เลยต้องไปซื้อสีสำเร็จรูป แต่เราคิดไกลมากกว่านั้นว่าต้องไปตะเวนหาที่มาและซัพพลายเออร์ให้ได้ และตั้งใจว่าถ้าเราไปสอนใครต่อก็จะบอกให้หมด ไม่มีกั๊ก”

หลังจากนั้น 2 ปี เมื่อเธอเริ่มมั่นใจในฝีมือและมีฐานลูกค้าเยอะจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เจ้าของร้าน Cherbelle bag and shoes spa ก็บอกกับตัวเองว่า

“ฉันพร้อมแล้วที่จะถ่ายทอดความรู้นี้ให้แก่คนอื่น จึงเริ่มเปิดคอร์สสอน หลังจากที่เราเคยไปรับงานช่วยอาจารย์ที่สอนเรา ตอนแรกประหม่ามากเพราะไม่รู้ถ่ายทอดอย่างไรให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช่แค่ให้เขาทำตาม แต่ต้องเรียนรู้ ไม่ว่าว่าลูกค้าจะหยิบกระเป๋าหรือหนังอะไรมา เราต้องตอบปัญหาได้หมด แต่ด้วยความที่เราผ่านกระเป๋ามาเป็นพันใบ ทำให้รู้ทันทีว่าทำแล้วได้ออกมาคืนสภาพได้กี่เปอร์เซ็นต์ ยากง่ายแค่ไหน”
หลังเริ่มเปิดคอร์สสอนจริงจัง ก็มีผู้สนใจมาให้สอนทุกอาทิตย์ เรียกได้ว่าคิวแน่นมาก เก็บเงินทำทุนได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งคุณทิพย์เผยว่า ถ้าร้านค้ามาเรียนจะคุ้มมากเพราะเอากระเป๋าลูกค้ามาทำแล้วเสร็จเลย บางร้านจำกัดว่าเอากระเป๋ามาได้ 3-5 ใบ แต่เธอสอนไม่อั้น ให้มาเรียนนั่งทำด้วยกัน ลูกค้าจึงชอบมาก
“ไม่ได้มองว่าเป็นการเสียโอกาส แต่เป็นการแบ่งปันและสร้างคอนเนกชั่นที่ดี”

@งานฝีมือสร้างเงินสะพัด ความเชื่อใจคือที่สุด

“ธุรกิจสปาอยู่ได้เพราะคนยังนิยมใช้กระเป๋าแบรนด์เนม ผู้หญิงเราอย่างน้อยต้องการมีไว้สักใบสองใบ พอใช้ไปมีโอกาสเลอะเปื้อน หนังเปื่อยอยู่แล้ว ทำให้ธุรกิจสปากระเป๋าเงินหมุนดีมาก โดยจุดที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ระยะยาวคือ “ราคาที่เหมาะสมและคุณภาพฝีมือ”

เมื่อพูดถึงงานฝีมือ ถามว่ามีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือไม่ ปิยรัตน์ตอบว่า มีแน่นอน ด้วยปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ต่าง ๆ ทางร้านจึงต้องมีความรับผิดชอบคือหากเกิดความเสียหาย ก็จะซื้อกระเป๋าใบนั้น ๆเลยตามสภาพที่มาถึง ตีรอยตามราคาตลาด แต่โอกาสที่จะเสียคือน้อยมาก เพราะตอนนี้ชำนาญและรักษาคุณภาพได้แล้ว ซึ่งวิธีการไม่ได้ยากแต่การรักษาคุณภาพต้องระมัดระวังสูงสุด เพราะมีผลต่อภาพลักษณ์ธุรกิจทั้งหมด

“จุดเด่นคือ ต้องราคาย่อมเยาว์ ไม่คิดแพง กลับมาใช้บริการซ้ำ คุยกันตรงๆว่าใบนี้แก้ใหม่แล้ว จะกลับมาใกล้เคียงของเดิมมากน้อยแค่ไหน 70-80% บางใบ 100% เลยก็มี

ส่วนงานด่วนงานเร่งทำได้ ใช้ผลิตภัณฑ์นำเข้าทั้งหมด เน้นได้น้อยแต่ได้นาน ๆ รักษาสัมพันธ์กับลูกค้า นิดๆหน่อยๆ เราก็ทำให้ฟรี พอมีมิตรภาพต่อกันเขาก็แนะนำคนอื่นมาใช้บริการเราด้วย ตลอด10ปี สำหรับการทำธุรกิจค้าขายกระเป๋า และ 4 ปีทำสปากระเป๋าและเริ่มเปิดคอร์สสอน เป็นเรื่องความเชื่อใจ เพราะลูกค้าต้องเอากระเป๋าหลายแสนมาไว้ที่เรา เราก็ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ “

@ทำไมจึงเปิดสอนคนอื่น ไม่กลัวโดนแย่งอาชีพ?

ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา กับการสอนลูกศิษย์มากกว่า 100 คน เราอยากเผยแพร่ความรู้นี้ให้กับคนที่สนใจจริง ๆ แล้วจะเป็นการช่วยเหลือกันมากกว่าแย่งอาชีพหรือเป็นคู่แข่ง

อีกมุมคือเราเคยเป็นนักเรียนมาก่อน บางสถาบันไม่บอกว่าซื้อวัตถุดิบจากที่ไหน ต้องซื้อผ่านอาจารย์ เช่นงานยาแนว งานรองพื้น ซึ่งมีขายทั่วไปแต่ไม่รู้แหล่งและพิกัดร้านที่ชัดเจน พอมาเริ่มเปิดสอนเอง จึงคิดว่าเรื่องไหนที่เราอยากรู้ เราก็จะสอนลูกศิษย์เราแบบนั้น บอกหมด ไม่ต้องมาซื้ออะไรผ่านเรา ใช้ซัพพลายเออร์ไหน ดีลกับใคร บอกไปตรง ๆให้ไปติดต่อเอง

“หลังเรียนจบมีอะไรสงสัยหรือเจอเคสยากๆ ก็โทรมาถามและติดต่อกันได้ ส่วนไหนยังทำไม่ได้ก็มาเรียนซ้ำได้อีก โดยไม่คิดเงินเพิ่ม ปรึกษากันต่อได้ตลอดชีวิต ถ้ามีเทคนิคใหม่ๆ หรือลองใช้น้ำยาตัวไหนแล้วดี ก็จะแชร์กันให้ตามทันเทคโนโลยี อัพเดทอะไรใหม่ๆ เสมอ”

@เผยเทคนิคไม่มีกั๊ก! คอร์สพิเศษสร้างทำธุรกิจกำไรงาม และแฟนคลับแบรนด์เนมที่อยากทำสปากระเป๋าตัวเองสวยๆ ไม่ง้อร้าน

โดยร่วมกับ “มติชนอคาเดมี” เปิดสปากระเป๋าแบรนด์เนมหลักสูตรเบื้องต้นและหลักสูตรแอดวานซ์ โดยทั้ง2 คอร์สดังกล่าว เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน ไปจนถึงคนที่อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านสปากระเป๋า หรือคนที่อยากมาเรียนเพื่อเอาไปสปากระเป๋าแบรนด์เนมของตัวเองก็ได้ เพราะไม่อยากทิ้งกระเป๋าไว้ร้านคนอื่น แถมยังถูกและประหยัดกว่าหลายเท่า

“บางคนที่มาเรียนไม่มีความรู้เรื่องสปากระเป๋าเลย แต่ก็สามารถเรียนได้ ทุกคนสามารถทำได้ ถ้าตั้งใจและรู้เทคนิควิธีการ ส่วนลูกศิษย์ที่มาเรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มขายกระเป๋าแบรนด์เนมอยู่แล้ว และมาเรียนเพื่อต่อยอดทำสปากระเป๋าด้วย ซึ่งสามารถขยายไปยังการค้าขายประมูลกระเป๋ามือสองได้ เพราะคนที่มาเรียนจะดูออกว่าใบไหนประมูลได้แล้วเอาไปทำสปาแล้วคุ้ม ขายต่อง่าย เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เพิ่มมูลค่าและรายได้ดีมาก”

สำหรับหลักสูตรสปากระเป๋าเบื้องต้นและหลักสูตรสปากระเป๋าขั้นแอดวานซ์นั้น จะสอนให้รู้จักวัสดุ ที่ใช้ทำกระเป๋าทั้งด้านนอกและด้านในของแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ซึ่งมีความแตกต่างกัน ให้ผู้เรียนได้รู้จักหนังและผ้าทุกชนิดที่ทำกระเป๋าแบรนด์เนม

โดยจะสอนงานสปากระเป๋าทุกขั้นตอน ทั้งยาแนว ลอกเหนียว ทำความสะอาดผ้าและหนังทุกชนิด ขัดอะไหล่ แก้ซิปฝืด สอนทำสปาสำหรับกระเป๋าผ้าที่เรียกว่าการซักแห้ง การบำรุงหนังแต่ละประเภท การโป๊หนังกรณีกระเป๋าหรือรองเท้าที่หนังถลอกหายไป การเก็บสี เติมเนื้อให้เต็ม และกรณีเกิดฟองอากาศจะแก้ไขได้อย่างไร สอนวิธีดูกระเป๋าแบรนด์เนมแท้ 5 จุดที่ต้องสังเกต โดยเรียนจากตัวอย่างของจริง เป็นต้น อีกทั้งยังมีตารางเรทราคาแนะนำการคิดค่าทำสปา สามารถนำไปเทียบประยุกต์ใช้จริงได้

“ในคลาสสปากระเป๋าพื้นฐาน ยกตัวอย่างการทำสปากระเป๋าหลุยส์ วิตตอง จะสอนการลอกเหนียวที่กระเป๋าพอใช้สักพักจะมีกาวเหนียวๆออกมา การขัดคาวไฮด์หรือหนังฟอกฝาด มักใช้เป็นหูจับกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ที่ใช้ไปนานๆจะทำปฏิกิริยากับน้ำ ครีมทาผิว อากาศ และอุณหภูมิ จะทำให้เกิดคราบ การขัดคาวไฮด์จะสามารถฟื้นฟูให้หนังกลับมามีสีสวยธรรมชาติ”

สำหรับในหลักสูตรแอดวานซ์ จะเพิ่มความยากขึ้นอีกระดับ โดยจะสอนเพิ่มการทำสีกระเป๋า ย้อมสีกระเป๋า หนังแก้ว หนังกลับ สีผ้า เปลี่ยนสีหนัง สอนเทคนิคการผสมสี ตัวยาผสมสีที่จะสามารถเปลี่ยนสีกระเป๋าได้ เพิ่มทักษะด้านศิลปะเป็นงานที่ใช้ฝีมือสูง

“ทำสีผ้า สีหนัง สีหนังแก้ว การผสมสีอย่างไรให้ได้ ที่อื่นอาจจะไม่สอน แต่เราจะสอนตั้งแต่สารตั้งต้น แล้วนำไปต่อยอดได้ ใช้ได้ทันที หลังทำสปามากว่า 1,000 ใบ เรารู้ว่าลูกศิษย์เรียนไปแล้วจะเจอปัญหาอะไร ก็จะบอกหมด แม้หลังเรียนจบแล้วก็กลับมาถามได้ เราทำทุกวันสามารถบอกได้ว่าเคสนี้ต้องทำอะไร ใช้น้ำยาอะไร ขั้นตอนไหน ไม่ยากแต่ต้องตั้งใจจริง”

นอกจากนี้ ผู้เรียนคอร์สสปากระเป๋าแบรนด์เนม ยังได้รับอุปกรณ์กลับบ้าน นำไปสร้างงานได้ทันทีหลังเรียนจบ เรียกได้ว่าคุ้มเกินคุ้ม

โดยแบ่งเป็นคอร์สพื้นฐาน ได้แก่ 1.น้ำยาทำความสะอาดผ้า 2.น้ำยาทำความสะอาดหนัง3.น้ำยาเคลือบเงาหนัง 4.น้ำยาทำความสะอาดอะไหล่ 5.Set ทำความสะอาด LV (ฟองน้ำ/ตัวเคลือบ/แผ่นขัด) 6.Set น้ำยาสำหรับงานยาแนว ( พามเมอร์/สียาแนว/พู่กัน) 7.แปรงขนม้า 8.ผ้าสำหรับใช้ซักแห้ง9.น้ำยาลอกเหนียว 10.น้ำยาโป้วหนังแหว่ง

ส่วนคอร์สแอดวานซ์ จะได้อุปกรณ์เช่นเดียวกับแบบพื้นฐานทั้งหมด โดยเพิ่มแม่สี , ตัวรองพื้น ,เบสหนัง/เบสผ้า/Nano glossy , คลีนซิ่ง , ตัวเคลือบเงาหนังหลังทำสี และแอบรัช /พู่กัน/จานสี

@ตลาดแบรนด์เนมมือสองไทยโตขึ้น-เผยกลยุทธ์รีวิวโซเชียล

ปิยะรัตน์เผยว่า ตลาดแบรนด์เนมมือสองในไทยสมัยนี้กว้างขึ้นเยอะมาก เมื่อก่อนคนชอบไปหิ้วกลับมาจากญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ตลาดมือสองของไทยบางรุ่นถูกกว่า

และเมื่อพูดถึงกำไรของธุรกิจสปากระเป๋าแบรนด์เนม ต้องบอกว่าได้กำไรดีมาก สามารถตั้งตัวได้ และมีลูกค้าเข้ามาตลอด ถ้าทำพร้อมงานประจำจะมีรายได้เพิ่มสามเท่า สำหรับกลยุทธ์ใน 1-2 ปีนี้เธอวางแผนจะขยายธุรกิจให้ครบวงจร โดยเพิ่มคอร์สสอน “ซ่อมกระเป๋า” รวมไปถึงการทำสีเครื่องหนัง ที่จะขยายไปหารองเท้าและโซฟาด้วย

“ลูกค้าประจำคือร้านค้าที่ขายกระเป๋าออนไลน์ที่มีหน้าร้านที่รับกระเป๋ามาแล้วขายต่อ 80% ส่วนอีก 20% จะเป็นลูกค้าที่เห็นรีวิวจากโซเชียลมีเดีย”

โดยเธอฝากทิ้งท้ายถึงกลยุทธ์โปรโมทช่องทางออนไลน์ว่าหลักๆ จะ ใช้วิธีโพสต์รีวิวบ่อย ๆ เพราะลูกค้าจะได้เห็นผลงาน โพสต์วันละนิดวันละหน่อย ให้คนได้เห็นเยอะๆ ให้มีความเคลื่อนไหวโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ซึ่งไม่ได้ลงทุนอะไร แต่ได้โชว์ผลงานและฝีมือให้คนหมู่มากได้เห็น พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งสมัยก่อนเคยใช้วิธีการตลาด เช่นให้คนดังที่รู้จักกันส่งกระเป๋ามาให้แล้วทำให้ฟรีเพื่อแลกการรีวิว โดยส่วนที่ให้ความสำคัญที่สุดคือการแชร์แบบปากต่อปาก เพื่อนบอกเพื่อน ซึ่งเป็นความน่าเชื่อถือระยะยาว

หลักสูตร สปากระเป๋าแบรนด์เนม (หลักสูตรเบื้องต้น)

สอนโดย อ.ปิยะรัตน์ จิตรีญาติ

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2561

ราคา 11,000 บาท

หลักสูตร สปากระเป๋าแบรนด์เนม (หลักสูตรแอดวานซ์)

สอนโดย อ.ปิยะรัตน์ จิตรีญาติ

วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 15-16 กันยายน 2561

ราคา 15,000 บาท

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี

Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124

Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105

line : @matichonacademy