“SEAC” ผนึก “SCPD” สร้างหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง

เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ในภาพรวมของบริษัทชัดเจนยิ่งขึ้น บริษัท เอพีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด (APM Group) ผู้นำทางด้านเทรนนิ่ง และผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาการบริหารธุรกิจ และการบริหารคน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น South East Asia Center (SEAC) หรือศูนย์พัฒนาผู้นำและผู้บริหารระดับสูง ที่มุ่งเน้นยกระดับผู้บริหารผ่านรูปแบบ Executive Education โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกหลากหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา

“อริญญา เถลิงศรี” Chief Capability Officer & Managing Director เอสอีเอซี กล่าวว่า SEAC เป็นแชปเตอร์ใหม่ของ APM Group โดยเมื่อก่อนภาพของบริษัททำอยู่ 2 เรื่องหลัก ๆ คือ การฝึกอบรม และการเป็นที่ปรึกษา ซึ่งเราทำทั้งสองส่วนมากว่า 25 ปี ให้กับลูกค้ามากกว่า 400 บริษัท และแต่ละบริษัทใช้บริการของเราต่อเนื่องยาวนาน

“แต่สิ่งที่ทำให้เราเริ่มมองว่า การเป็น AMP Group ไม่เพียงพออีกต่อไป คือการที่เราไม่สามารถอยู่บนโลกด้วยการบริหารจัดการแบบเดิมได้ และจุดสำคัญที่มองคือการจะยกระดับประเทศชาติได้ จะต้องเริ่มจากผู้นำในองค์กรก่อน เราจึงเปลี่ยนโฉม APM Group มาเป็น SEAC ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นการรีแบรนด์ของเราทั้งหมด พร้อมยกระดับภาพการให้บริการ ด้วยการทำ Executive Education ที่เราไม่เคยทำมาก่อน”

“ดังนั้นคนที่จะเข้ามาช่วยเสริมแกร่งเราได้คือสถาบันการศึกษา เราจึงเข้าไปพูดคุยกับ Stanford Center for Professional Development (SCPD) ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา โดยจุดแข็งของ SCPD คือการสร้างนวัตกรรม ที่จะมาช่วยเสริมให้ Executive Education ไม่ใช่เพียงการให้วิชาความรู้กับผู้บริหารระดับสูง แต่เป็นการสร้างคอมมิวนิตี้ในเรื่องการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพราะหากนวัตกรรมของบริษัทในประเทศไทยยังอยู่แบบเดิม เราจะไม่สามารถแข่งขันบนโลกได้”

ส่วนอีกเป้าหมายหนึ่งของ SEAC คือการเป็นแหล่งรวมตัวของผู้นำในภูมิภาคอาเซียน เพราะไม่ต้องการเติบโตเพียงในประเทศ เนื่องจากต้องการขยายบทบาทสำคัญในการประสานให้ผู้นำ หรือผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่าง ๆ ในอาเซียน

เพื่อให้ผู้นำเหล่านี้ศึกษาเรียนรู้อย่างใกล้ชิดกับนักคิดทางธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลก ผ่านรูปแบบการเรียนการสอนในแบบเฉพาะของ SEAC ที่เน้นการแบ่งประสบการณ์ร่วมกัน จนทำให้เกิดการยกระดับขีดความสามารถ และความรู้ความเข้าใจเชิงลึก

สิ่งสำคัญคือ การทำอย่างไรให้คนรู้สึกร่วมกันว่า Executive Education เป็นเรื่องที่ผู้บริหารระดับสูงต้องลงมาผลักดัน และต้องรู้ว่าควรบริหารอย่างไรในยุค Disruptive World ที่เป็นสัญญาณเตือนภัยให้กับองค์กรขนาดใหญ่ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะผลกระทบของการไม่ระมัดระวังคำว่า Disruptive ทำให้บริษัทหลายรายล้มระเนระนาดกันมาแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ความร่วมมือกับ SCPD ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จึงเกิดเป็นโครงการ Leading in a Disruptive World (LDW)

“พอล มาร์คา” Associate Vice Provost ฝ่าย Office of the Vice Provost for Teaching and Learning มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวเสริมว่า การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในแคมปัส เราจึงต้องการขยายเครือข่ายของมหาวิทยาลัยมาทางแถบภูมิภาคเอเชีย โดยเรามองหาพาร์ตเนอร์ในประเทศไทยที่มี 2 มุม คือเข้าใจธุรกิจ และเข้าใจการศึกษา ซึ่ง SEAC มีครบในสองส่วนนี้ ทั้งยังเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้กับเราได้อีกด้วย

“โครงการ LDW ที่เราทำร่วมกับ SEAC จะเข้ามาตอบโจทย์โลกที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งเหมาะกับผู้บริหารเบอร์หนึ่งขององค์กร ที่เป็นคนจะนำสิ่งที่ได้จากโครงการไปปรับเปลี่ยนการบริหารองค์กรให้ขับเคลื่อนได้ในโลกที่มีความผันผวน โดยก่อนทำโครงการ เรามีการทำโฟกัสกรุ๊ปเมื่อเดือน ต.ค. 2559 เพื่อให้เข้าใจผู้บริหารไทย หลังจากนั้นเรามีผู้บริหารไทยจำนวน 40 คน เข้ามาเรียนเป็นรุ่นแรก เมื่อ 6-10 มีนาคม 2017 และกำลังจะเปิดรุ่นที่ 2 เร็ว ๆ นี้”

“โดยจะเน้นเรื่องการใช้ความคิดเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม และการนำพาองค์กรไปสู่การเป็นผู้นำในศตวรรษที่ 21 นอกจากนั้นยังมีการเดินทางไปเรียนรู้ที่ซิลิคอนวัลเลย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรทางความคิดด้าน Disrup-tive Innovation ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์กรชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, Microsoft, Apple และอีกมากมาย”

โดยจุดเริ่มต้นของซิลิคอนวัลเลย์มาจากศาสตราจารย์ และผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งบริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ก่อนที่จะกลายเป็นอาณาจักร Disruptive World ในทุกวันนี้ กระทั่งกลายเป็นสถานที่ที่รวบรวมแรงบันดาลใจ และความคิด สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ที่ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับตนเอง และองค์กร อีกทั้งผู้บริหารยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันตลอดการเดินทาง จนเกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ดี และนำมาพัฒนาต่อเพื่อประโยชน์ต่อองค์กรอีกด้วย

ดังนั้นจึงแน่นอนว่า บทบาทใหม่ของ APM Group ภายใต้ชื่อ SEAC จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และแนวคิดให้กับผู้บริหารบนพื้นฐานความแปลกใหม่ จนกลายเป็นผู้บริหารองค์กรในยุค Disruption ที่สามารถนำพาองค์กรยืนหยัดได้ในระยะยาว