เร่งขับเคลื่อนวาระแก้วิกฤตควันพิษ

บทบรรณาธิการ

การขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 12 กุมภาพันธ์ 2562 อยู่ระหว่างจัดทำแผนปฏิบัติการ และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หมอกควันพิษที่กำลังวิกฤตรุนแรงในภาคเหนือ ถือเป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข

เพื่อลดผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สุขภาพอนามัยที่เกิดขึ้นในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหัวเมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างจังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

หลังเว็บไซต์ตรวจสอบคุณภาพอากาศ air visual จัดอันดับให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลการตรวจวัด AQI (air quality index) อยู่ที่ 171 ขณะที่ฝุ่นละออง PM 2.5 และ PM 10 เกินค่ามาตรฐาน

ไม่ต่างไปจากสถานการณ์หมอกควันที่กระจายปกคลุมภาคเหนือตอนบนอีก 8 จังหวัด ทั้งเชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แม่ฮ่องสอน ตาก แพร่ น่าน และถึงขณะนี้วิกฤตยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลาย

กลายเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรทั้งทางถนน ทางอากาศ ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจท่องเที่ยว ขณะที่ประชาชนจำนวนมากเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพอนามัยจากการสูดดมฝุ่นควันพิษ วิกฤตทียังหาทางออกไม่ได้จึงทำให้สาธารณชนยิ่งวิตกกังวล

ล่าสุดหลายหน่วยงานระบุตรงกันว่า สาเหตุหลักของหมอกควันที่วิกฤตรุนแรงมาจากปัญหาเดิม ๆ คือ การเผาป่า เผาวัสดุทางการเกษตรทั้งในประเทศไทยและชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ชี้ให้เห็นว่ามาตรการควบคุมป้องกันหมอกควันพิษ ไฟป่าที่ภาครัฐดำเนินการต่อเนื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมายังไม่ได้ผล

แถมปีนี้ปัญหาไฟไหม้ป่า การจุดไฟเผาวัชพืช วัสดุทางการเกษตรมีมากกว่าเดิม เห็นได้จากข้อมูลภาพถ่ายผ่านดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ระบุว่า ตรวจพบจุดความร้อน หรือ hotspot ใน 9 จังหวัดภาคเหนือมากถึงกว่า 3,000 จุด ที่น่าห่วงคือ การลุกลามของไฟป่าขยายวงกระทบป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติในหลายพื้นที่

การตระหนักและให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนผลักดันวาระแห่งชาติ มาตรการป้องกันฝุ่นละออง ไฟป่า ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานตั้งแต่ระดับนโยบาย หน่วยงานในพื้นที่ต้องผนึกกำลังร่วมกันแก้ไข

โดยใช้หลักนิติศาสตร์-รัฐศาสตร์ ชี้แจงทำความเข้าใจ ควบคู่กับรณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้ทุกฝ่ายรับรู้ถึงภัยอันตราย จึงจะแก้หมอกควันพิษอย่างยั่งยืนได้