คอลัมน์

การเมืองเรื่องอุตสาหกรรม

คอลัมน์ แตกประเด็น

โดย อภิภพ พึ่งชาญชัยกุล รองเลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมฯ

ตามที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้ทราบถึงผลการเลือกทั่วไป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา อย่างคร่าว ๆ กันแล้วนั้น (กกต.ประกาศผลการนับคะแนน ส.ส. แบบแบ่งเขต 94.xx%) ถึงแม้ว่ายังไม่รู้ถึงจำนวนสุดท้ายของ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อก็ตาม แต่บรรดาพรรคการเมืองก็เริ่มจับมือจัดตั้งรัฐบาลกันแล้ว

เพราะถึงแม้ว่า กกต.จะบอกว่าต้องรอถึงต้นเดือนพฤษภาคม จึงจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การขับเคลื่อนประเทศก็รอไม่ได้ โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจที่เราต้องแข่งขันกับคู่ค้ามากมายในตลาดโลกตามที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ได้จัดประชุมใหญ่สมาชิกทั่วประเทศ และเสวนาเรื่องทิศทางของอุตสาหกรรมไทย เมื่อ

วันที่ 18 มี.ค. 62 ที่ผ่านมา ซึ่ง คุณสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. ได้นำเสนอทิศทางที่ภาคอุตสาหกรรมอยากเห็น และได้เชิญพรรคการเมือง 5 พรรค (ซึ่งบังเอิญว่าได้จำนวน ส.ส. มากเป็นอันดับ 1-5 พอดี) เข้าร่วมแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจ และตอบคำถามจากนักอุตสาหกรรมในการเสวนาครั้งนี้ด้วย

โดยประธาน ส.อ.ท.ได้นำเสนอ 5 ปัจจัยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง อันประกอบไปด้วย

1) สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคอุตสาหกรรม-การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร่วมกับภาครัฐ-เร่งจัดทำ Ease of Doing Business ของทั้งภาครัฐและเอกชน-ตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่

2) เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันอุตสาหกรรมไทย เช่น การตั้งกองทุน Innovation Fund, ตั้งศูนย์ Big Data ภาคอุตสาหกรรม และการส่งเสริม Smart Argo

3) ยกระดับ SMEs และส่งเสริม Made-In-Thailand ทั้งในด้านการผลิต คุณภาพสินค้า และการตลาด

4) ส่งเสริมธรรมาภิบาลความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในแง่การส่งเสริมพัฒนา และรักษาสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การทำบัญชีที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ (บัญชีเดียว) แต่ในขณะเดียวกัน ภาครัฐก็ต้องดำเนินการยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น และที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบกิจการ

และสุดท้าย 5) ยกระดับทักษะ ความรู้ และคุณภาพชีวิตทรัพยากรมนุษย์ โดยการปรับการศึกษาให้ตอบสนองต่อภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีพ และการจ้างงานตามทักษะฝีมือ (ก้าวข้ามการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ) เป็นสิ่งที่ ส.อ.ท.ได้ย้ำเตือนอยู่ตลอดมา และได้มีการส่งเสริมการจัดทำมาตรฐานวิชาชีพของแรงงานมีฝีมือในแต่ละประเภทอุตสาหกรรม ร่วมกับภาครัฐ ซึ่งในปัจจุบันมีหลายสิบอาชีพที่ได้ประกาศมาตรฐานไปแล้ว

ทั้งนี้ การนำเสนอทั้งหมดนี้ผ่านขั้นตอนการระดมสมองจากกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศได้นำไปศึกษา และปรับให้เข้ากับนโยบายของแต่ละพรรค ซึ่งเป็นแนวทางที่ภาคอุตสาหกรรมหวังที่จะเห็นอย่างเร่งด่วน

สุดท้าย ส.อ.ท.ก็หวังจะเห็นถึงความชัดเจนทางการเมือง และการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพโดยเร็ว เพราะยิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเท่าไร ยิ่งจะทำให้ภาคเศรษฐกิจโดยรวมมีปัญหาเกิดการชะลอการตัดสินใจในด้านต่าง ๆ เพื่อรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะการเมือง คือ เรื่องของการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของประเทศตามความเหมาะสม และชอบธรรม การยอมรับจากคนส่วนใหญ่ของประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ต้องไม่ทิ้งเสียงส่วนน้อยไว้เบื้องหลังด้วยเช่นกัน

หมายเหตุ : สามารถรับชมการนำเสนอทิศทางอุตสาหกรรมไทยโดยประธาน ส.อ.ท. ได้ทาง Youtube : https://youtu.be/1OMgO2enENs