4.4 ทศวรรษ สิ้นสุดระบอบเผด็จการ

คอลัมน์ สามัญสำนึก
อิศรินทร์ หนูเมือง

ทุก 4.4 ทศวรรษ คือวงรอบของการเปลี่ยนแปลง-แตกหักทางการเมืองของประเทศไทย

2475 ถึง 2519 คือ วงรอบ 44 ปี

2519 ถึง 2563 คือ วงรอบอีก 44 ปี

มีวาระ 14 ตุลาคม 2516 คั่นกลางด้วยชัยชนะของนักศึกษา ประชาชน

เปิดทางให้คนรุ่นหลังจากนั้นได้เติบโตมาท่ามกลางเสรีภาพ อย่างน้อยก็ 4 ทศวรรษ

ในรอบ 88 ปี มีปัจจัยของแรงปะทุทางการเมือง นำไปสู่การชุมนุมเรียกร้อง และจบด้วยการเปลี่ยนแปลงแต่ละรอบ มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างน้อย 3 ข้อ

1.คนชั้นล่าง เดือดร้อนทางเศรษฐกิจ ถูกขูดรีดจากรัฐ

2.ปัญญาชน คนรุ่นใหม่ ต้องการสิทธิเสรีภาพ มีส่วนร่วมในการปกครอง

3.ระบอบเผด็จการ ทำให้นักการเมืองเสียโอกาสในการเข้าสู่อำนาจ

ความกดทับ ทำให้เกิดระเบิดอย่างรวดเร็วและรุนแรง

14 ตุลาคม 2516 ก็เช่นกัน…ปัญญาชนหัวขบวน บ่มเพาะความไม่พอใจไว้ ภายใต้ระบอบ “ถนอม-ประภาส”

ผสมโรงกับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น วัฒนธรรมอำนาจนิยม ระบบอุปถัมภ์ ตั้งแต่ในทำเนียบ-รัฐสภา-กองทัพ
ไปจนถึงระดับโรงเรียน

สภาพการณ์เศรษฐกิจภายใต้ “ทุนนิยมขุนนาง” มีทหารนั่งเป็นบอร์ดบริหารรัฐวิสาหกิจ-ธุรกิจใหญ่ แทบทุกเซ็กเตอร์

“เสกสรรค์ ประเสริฐกุล” เคยเล่าไว้ในสารคดี “40 ปี 14 ตุลา” ว่า ในฐานะ “นักศึกษาสิ่งที่ต้องทำ คือ ไม่ยอมให้รัฐบาลจับคนตามใจชอบ เราต้องการเสรีภาพ”

ข้อเรียกร้องในเวลานั้น คือ เสรีภาพในการชุมนุม ขอให้ปล่อยนักศึกษา 13 คน แก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อความเคลื่อนไหวปรากฏ วันที่ 14 ตุลาคม 2516 เมื่อคนราว 5 แสน แสดงเจตจำนงทางการเมือง นักศึกษาเดินออกจากธรรมศาสตร์ ประชาชนสมทบท่วมราชดำเนิน “เสกสรรค์” บรรยายคลื่นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี ไว้ว่า…

“เป็นความรู้สึกที่เหนือคำบรรยาย มันรู้สึกว่า เราเหมือนกับรอวันนี้มานาน คือรอ ไม่ใช่ฐานะส่วนตัว รอในฐานะประชาชนไทยจะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของเขา เห็นประชาชนออกมามากมายมหาศาล มันสะเทือนใจ เหมือนฝันปรากฏเป็นจริง ในส่วนตัวมีความภาคภูมิใจ ซาบซึ้ง มากมายมหาศาลขนาดนั้น”

“ความในใจที่เราอยากจะบอกกับโลก บอกกับประชาชนมากมาย ส่งทอดข่าวสารที่มีอยู่ในใจไปยังผู้ปกครองประเทศ”

แน่นอนว่า 14 ตุลาคม 2516 นักศึกษาประชาชนได้ชัยชนะ ทั้งปล่อยตัว 13 แกนนำ กำหนดไทม์ไลน์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ผู้นำเผด็จการถูกให้ออกนอกประเทศ

เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ในสายตาของ “เสกสรรค์” เป็นบิ๊กแบงทางการเมือง

“เป็นการระเบิดครั้งใหญ่ของพลังต่าง ๆ ต่ออำนาจรัฐมาประกอบขึ้นเป็นเอกภพและจักรวาล ในช่วงแรกมันกระจายไร้ทิศทาง แต่ที่แน่ ๆ คือ สังคมไทย ไม่สามารถหวนกลับไปสู่ระบอบเผด็จการเต็มรูปแบบได้ แล้วเราไม่ต้องการจะกลับไป แต่เราก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ”

14 ตุลาคม 2516 คือการลุกขึ้นสู้ของประชาชนคนไทย ที่ต้องการสิทธิเสรีภาพ ต้องการโค่นระบอบเผด็จการ และต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนสามารถยืนยันสิทธิความเป็นเจ้าของประเทศ ผ่านการคัดเลือกที่ประชาชนมีสิทธิมีส่วนในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของบ้านเมือง มีสิทธิในการแสดงออกในกรอบสันติวิธี ว่าตัวเองต้องการที่จะมีชีวิตเช่นใด

ไม่ควรลืมว่า บรรยากาศหลังวันชัยชนะประชาชน ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2516 คือ สุญญากาศของอำนาจรัฐ ตำรวจ ทหาร ไม่กล้าออกสู่ท้องถนน บุคคลในเครื่องแบบต้องซ่อนเครื่องแบบตัวเองไว้

ฉากจบของผู้นำเผด็จการและเครือข่าย ในวาระ 4.4 ทศวรรษ ใกล้เข้ามาแล้ว !!