ต้องมีความหวังและกำลังใจ

Photo by AFP
คอลัมน์ สามัญสำนึก
สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

ปรับตัวแทบไม่ทัน เมื่อวายร้ายไวรัส “โควิด-19” เข้าจู่โจมเมืองไทยระลอก 2 อย่างตั้งตัวไม่ติด

ซ้ำมีแนวโน้มเป็น “มหาวิกฤต” ทั้งเศรษฐกิจและสังคม

พอ ๆ กับวิกฤตต้มยำกุ้ง

แม้เจ้าโควิดจะให้โชคเรื่องหวย 2 ตัวตรง ราวเลขล็อก ส่งท้ายปีเก่า รับขวัญปีใหม่ 2021 ให้คนไทยได้รวยและเริงร่า

เอาเข้าจริง หวยงวดท้ายปี กลับเงียบเชียบ ไร้เสียงเฮ

แฟนคลับคอหวยหงอยทั้งตลาด

นี่คือภาพสะท้อนของสังคมรากหญ้าที่เริ่มหมดความหวัง

เพราะไม่มีแม้กระทั่งเงินแทงหวย

ส่วน “ผู้ประกอบการ-นักธุรกิจ” เริ่มยิ้มไม่ออก หลังรับรู้มติคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ใช้เวลาและความสามารถพิจารณาเรื่อง “วันหยุดยาว” ปี 2564 เป็นเรื่องหลัก

สะท้อนถึงความเป็น “มืออาชีพ” ต่อการแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง รวมไปถึงสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่รอการแก้ไข

เพราะช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปีที่แล้ว ดูทรงเศรษฐกิจไทยน่าจะพอขับเคลื่อนไปได้

ส่วนนี้รับฟังและรับรู้มาจากบรรดาซีอีโอทั้งหลาย จนกลายเป็นความคาดหวัง

หวังให้รัฐบาลเหยียบคันเร่ง เพื่อสร้างโอกาสโมเดลใหม่ ๆ

แต่สุดท้าย จังหวะดีก็ผ่านไป โควิดใหม่กลับโหมพัดกระหน่ำซ้ำ

โรคระบาดรอบนี้จึงน่าหวาดหวั่น

เพราะไม่มีใครคาดเดาได้ ประเทศไทยจะเดินไปทางไหน เดินอย่างไร

เพราะ “จนกับตาย” มาจ่อถึงตัวแล้ว

“ผู้นำ” ควรต้องแสดงความกล้าหาญ สร้างความหวัง และกำลังใจครั้งใหญ่

ดีกว่าปล่อยให้น้ำป่าไหลบ่า

จะบล็อกทางน้ำ ปิดกั้นพื้นที่ หรืออพยพผู้คน ก็ทำเถิด

เจ็บแต่จบ กระทบกันบ้าง ระยะสั้น ไม่มีใครว่า สมศรีทนได้

ดีกว่าปล่อยให้เชื้อระบาดไปไกลทุกจังหวัด จะกลายเป็น “เจ็บแต่ไม่จบ” บ้านเมืองจะยิ่งโกลาหล

วันนี้ หมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ที่มาด้วยเสียงนิ่ม ๆ ชวนรับฟัง แต่น่าตกใจ เมื่อสีผมเปลี่ยนไป จากอาเฮียกำลังมาเป็นอาแปะ

อาจจะเครียดลึก เพราะความเป็น “โฆษก” ต้องแปลภาษาไทยธรรมดา ให้เป็นภาษาไทยชั้นสูง

คือดูสละสลวย รื่นหู แต่เข้าใจยาก หรือต้องถามซ้ำ

เมื่อตัวเลขแถลง ก่อนและหลังปีใหม่ มีผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด

หวั่นใจ ถ้ารัฐเอาไม่อยู่ สถิติอาจถึงหลักพัน เพราะเข้าสู่หลักร้อยปลาย ๆ แล้ว

ส่วนตาแป๊ะไม่ต้องพูดถึง เครียดยิ่งกว่าเครียดซะอีก เพราะว้ากไปทั่ว

ล่าสุด ศบค.เห็นชอบให้ล็อกดาวน์ 5 จังหวัดซีฟู้ด ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ สมุทรสาคร-ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี-ตราด

เป็นตะวันดับของภาคตะวันออกอีกครั้ง

ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมจริง ๆ

ทุกลมหายใจจึงรอดู “นโยบาย” และ “มาตรการ” รัฐบาลอย่างจริงจัง

ยิ่งเห็นรายงานสำนักวิจัยกสิกรไทย แจงเรื่อง “หนี้ครัวเรือน” ยังคงสูงอยู่ และมีทิศทางจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

นอกเหนือจากสัญญาณอ่อนแอของภาวะเศรษฐกิจ

โดยประเมินว่า ความเสี่ยงของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2564

และน่าจะมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน

ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ น็อนแบงก์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

รวม ๆ แล้วประมาณ 10.68 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ 3.5 ล้านล้านบาท

ส่วนแนวโน้มหนี้ครัวเรือนปีนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้นมาที่ 91.0% ต่อจีดีพี หรืออาจสูงกว่า

หากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิดมากกว่าที่ประเมิน และทำให้จีดีพีปีนี้เติบโตน้อยกว่าพื้นฐานที่ 2.6%

ทั้งเป็นไปได้ที่ปีนี้ ประเทศไทยจะมีหนี้ครัวเรือนทะลุถึง 14 ล้านล้านบาท