ซีเอสอาร์ “มิตซูบิชิ” มุ่งการศึกษา-เยาวชนอย่างยั่งยืน

นอกจากการผลิตรถยนต์เพื่อให้เกิดสุนทรียภาพในการขับขี่ และปลอดภัย โดยมุ่งมั่นผลิตรถยนต์ที่ดี มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันถือเป็นปรัชญาของการทำงานแล้ว บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการศึกษา และเยาวชน เพื่อยกระดับการพัฒนาสังคมไทยให้ดีขึ้น

ผลเช่นนี้ จึงทำให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ด้วยการร่วมกันเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่น้อง ๆ ผู้พิการทางสายตา ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดมกุฎคีรีวัน (เขาใหญ่) จ. นครราชสีมา พร้อมกับมอบเครื่องพิมพ์อักษรเบรลล์ อุปกรณ์ทางการศึกษา และสิ่งของที่จำเป็นให้กับน้อง ๆ

“ฉัตรชัย ฉัตรพุทธรักษา” ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เป็นส่วนหนึ่งของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ และใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นฮับการผลิตเพื่อการส่งออกทั่วโลก ฉะนั้น จึงถือเป็นหน่วยงานที่บริษัทแม่ให้ priority ในการทำงานเป็นอันดับต้น ๆ

หากเชื่อมโยงถึงปรัชญาการทำงาน และนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากการผลิตรถยนต์เพื่อให้เกิดสุนทรียภาพในการขับขี่ และมีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว การดำเนินด้านซีเอสอาร์ถือเป็นอีกหนึ่งการทำงานที่มิตซูบิชิให้ความสำคัญ โดยแบ่งหัวข้อการทำงานออกเป็น 4 เรื่องหลัก ๆ ประกอบด้วย

หนึ่ง การมุ่งเป็น Good Citizen

สอง การส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน

สาม การสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา

สี่ ด้านสิ่งแวดล้อม

“โดยในส่วนของประเทศไทย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะให้ความสำคัญกับการส่งเสริม และพัฒนาเยาวชน การสนับสนุนการศึกษา เป็นหลัก เพราะ 2 เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ประเทศไทยมีความต้องการ และเชื่อว่าพื้นฐานในการพัฒนาประเทศชาติจะเกิดจากการศึกษา และเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ ซึ่งจะสามารถช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศให้ดีขึ้นได้”

สำหรับกิจกรรม และโครงการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาจะมีทั้งการมอบทุนการศึกษา การมอบเครื่องยนต์ให้กับโรงเรียนอาชีวะทั่วประเทศ รวมถึงมูลนิธิพระดาบส ภายใต้โครงการ Vocational School Support Program (VSSP) ซึ่งเป็นการมอบอุปกรณ์การเรียน การสอน ที่เป็นเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นไทรตัน แลนเซอร์ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคของมิตซูบิชิเข้าไปอบรมให้ความรู้เกี่ยว กับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีความทันสมัย

“ส่วนการส่งเสริมและพัฒนา เยาวชน เราจะเน้นการสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งสิ่งของ ทุนการศึกษา เช่นเดียวกับการนำคณะสื่อมวลชนมาจัดกิจกรรมที่โรงเรียนสอนคนตาบอดมกุฎคีรีวัน (เขาใหญ่) จ.นครราชสีมา ในครั้งนี้”

“ฉัตรชัย” กล่าวอีกว่าไม่เพียงเท่านี้ มิตซูบิชิยังมีการมอบจักรยานให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการร้อยฝัน ปั่นจักรยานไปเรียน เนื่องในโอกาสครบ 100 ปีของรถยนต์มิตซูบิชิ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ปิดกั้นโอกาสทางการศึกษา หรือทำให้การเข้าถึงการศึกษาได้ยากคือการเดินทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด

“โดยจักรยานที่มอบให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ เป็นจักรยานสั่งทำพิเศษ มีความทนทาน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่หลากหลาย โดยให้โรงเรียนเป็นผู้บริหารจัดการใน ลักษณะ Bike Sharing ตรงนี้

จะช่วยทำให้น้องๆ นักเรียนเดินทางมาโรงเรียนได้สะดวกขึ้น ทำให้เข้าถึงการศึกษาได้ง่ายขึ้น เหมือนอย่างที่เราทำผ่านมาในจังหวัดกาญจนบุรี,ร้อยเอ็ด,ศรีสะเกษ และพังงา ที่น้องๆ นักเรียนอยู่ห่างจากโรงเรียนกว่า 20 กิโลเมตร พวกเขาต้องเดินเท้ามาโรงเรียน ฉะนั้น ถ้าเด็กเหล่านั้นป่วย หรือมีฝนตก ก็ไม่สามารถมาโรงเรียนได้”

“ที่ผ่านมาเราจึงมอบจักรยานให้แก่ โรงเรียนต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 1,100 โรงทั่วประเทศ และคิดว่าโครงการนี้ยังจะดำเนินต่อไป โดยในปี 2561 เราจะดำเนินการมอบจักรยานให้โรงเรียนต่าง ๆ ทั้งหมด 4 โรงเรียน โดยแบ่งออกเป็นไตรมาสละหนึ่งจังหวัด ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า

นอกจากการยึดมั่นในปรัชญาการทำงาน สิ่งที่เราดำเนินการ และให้ความสำคัญมาตลอดคือการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา และการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน ซึ่งเราจะยังคงดำเนินการต่อไป เพื่อส่งมอบความสุข และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน พัฒนาสังคมให้น่าอยู่มากขึ้น”

“ฉัตรชัย” ยังบอกอีกว่านอกจากการส่งเสริม สนับสนุนด้านการศึกษา และเยาวชน สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม มิตซูบิชิ ก็ให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการ ทุกขั้นตอนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งระบบการพ่นสีที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย (aqueous coating system) และการเพิ่มอัตราการใช้เครื่องจักรกล จากสัดส่วน เดิมร้อยละ 8 ในโรงงานแห่งที่ 1,2 ให้เป็นร้อยละ 40 ในโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิต ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพิ่มคุณภาพ และปริมาณการผลิต ด้วยการใช้วัตถุดิบ อย่างคุ้มค่าและเหมาะสม

“นอกจากนี้ มิตซูบิชิ ยังกำหนดแผนปฏิบัติการดำเนินธุรกิจ ราย 3 ปี (2017-2019) หรือที่เรียกว่า midterm plan ภายใต้ยุทธศาสตร์ drive for growth เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาผลประกอบการ การปรับปรุง และพัฒนาสินค้า บริการ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร โดยเฉพาะการผลิตทั้งหมดต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมามิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เริ่มมองถึงการศึกษา ค้นคว้า พัฒนา การผลิต รถยนต์ที่เป็น electric vehicle (EV) และ plug-in hybrid (PHEV) ในภูมิภาคนี้

เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ซึ่งปัจจุบัน มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นมีการผลิตรถยนต์ที่เป็น EV และ plug-in hybrid (PHEV) ไปก่อนแล้ว เพราะเชื่อมั่นว่าจะช่วยทำให้ทุกประเทศสามารถลดมลพิษที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งในภาพของ global เราจะเน้นเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก”

“ที่สำคัญ เรายังกำหนดวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส กรุ๊ป สู่ปี 2020 โดยบริษัทในกลุ่มจะพัฒนา และปรับเปลี่ยน การค้นคว้าวิจัยการจัดซื้อวัตถุดิบ การผลิต การจำหน่าย ตลอดจนการบริการหลังการขายที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายหลักที่จะลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ได้ร้อยละ 70 ใน ปี 2020 ด้วย”

จึงนับเป็นการดำเนินธุรกิจ ที่นอกจากจะผลิตรถยนต์ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มีคุณภาพ และมาตรฐาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับสังคมไทย เพื่อมุ่งเป็น good citizenship ในประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจต่อไปด้วย