BIODIVERSITY “MEC” ปรัชญาการพัฒนาที่ยั่งยืน “เอพี”

โครงการ LIFE สาทร เซียร์รา

เพราะวิสัยทัศน์ที่มุ่งเป็นผู้นำในการริเริ่มสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันนี้และวันข้างหน้า เพื่อทุกคนในสังคม (AP WORLD, A Vision for Quality of Life) “บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)” จึงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยของคนเมือง โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองบริบทใหม่เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนในโลกอนาคต ภายใต้ปรัชญา “GROW-มาสเตอร์แพลนแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน”

เพราะวันนี้แนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยไม่ได้จำกัดเพียง “การออกแบบ, ทำเลที่ตั้ง และราคา” เท่านั้น แต่ต้องมีการวางรูปแบบมาสเตอร์แพลนที่รองรับการอยู่อาศัยของผู้คนให้มีความยั่งยืนด้วยการออกแบบพื้นที่ในโครงการที่สนับสนุนให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อให้การพัฒนาเมืองและสภาพแวดล้อมเติบโตอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล

ไม่นานที่ผ่านมา “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับน้อง ๆ นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกใน “โครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2019 (AP Open House 2019)” เพื่อศึกษาองค์ความรู้ในการพัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในโลกอนาคต ในโครงการต้นแบบอสังหาริมทรัพย์ของ “มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์” (Mitsubishi Estate Residence) บริษัทในเครือ “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” (Mitsubishi Estate Group-MEC) ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลของระบบนิเวศเพื่อนำมาสู่การใช้ชีวิตที่เกื้อหนุนระหว่างมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ภายใต้ปรัชญา “BIODIVERSITY”

“วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาและขายไปเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงการเติบโตร่วมกันระหว่างธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนั้น เอพีในฐานะผู้พัฒนาอสังหาฯที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัย ภายใต้วิสัยทัศน์ AP WORLD จึงตอกย้ำแนวคิดดังกล่าวจนเป็นที่มาของปรัชญา GROW-มาสเตอร์แพลนแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน

“โดยการออกแบบและพัฒนาโครงการจะไม่ใช่แค่การคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ตลอดจนความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่จะศึกษาและทำความเข้าใจของการอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างคนเมืองและธรรมชาติ โดยเฉพาะการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบนิเวศของการอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างสิ่งแวดล้อม คน สิ่งก่อสร้างอย่างสมบูรณ์ ทำให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราที่มุ่งสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันนี้และวันข้างหน้าเพื่อทุกคนในสังคม”

จากการที่เอพีจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มากว่า 6 ปี จึงทำให้เกิดการสนับสนุน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะการถ่ายทอดองค์ความรู้สำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับการนำน้อง ๆ นักศึกษาจากโครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ ปี 2019 มาศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ เพื่อเปิดวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของการอยู่ร่วมกันกับทั้งมนุษย์และธรรมชาติ จนนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในสังคมของมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ ภายใต้ปรัชญา BIODIVERSITY ผ่าน 2 โครงการต้นแบบอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่

หนึ่ง ไดมารูยู (DAIMARUYA DISTRICT) ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ใจกลางเมืองควบคู่ไปกับการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ เพิ่มคุณภาพชีวิตแก่ผู้อยู่อาศัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ BIO NET Initiative

โครงการ LIFE สาทร เซียร์รา

สอง อิซูมิ ปาร์ค ทาวน์ (IZUMI PARK TOWN) เมืองที่ทำให้การอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างคน สิ่งก่อสร้าง และสิ่งแวดล้อมเต็มไปด้วยความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว แหล่งอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย และศูนย์กลางทางธุรกิจ

สำหรับไดมารูยูถือเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจสำคัญที่ครอบคลุมตั้งแต่ Marunouchi-Otemachi-Yurakucho โดย MEC ต้องการพัฒนาให้พื้นที่ใจกลางเมืองแห่งนี้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง จากย่านที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นเพียงสถานที่ทำงาน ออฟฟิศ ให้กลายเป็นย่านธุรกิจสำคัญของโตเกียวที่รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ อาคารสำนักงานมากมาย ทั้งนั้น MEC ยังได้สร้างให้ย่านนี้มีบรรยากาศของความเขียวขจีด้วยแนวคิดที่จะสร้างความยั่งยืนและเพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ไว้ในใจกลางเมืองโตเกียว จึงทำให้พื้นนี้กลายเป็นปอดของเมืองที่สามารถเชื่อมคนเข้ากับธรรมชาติได้อย่างไร้รอยต่อ

นอกจากนี้ ไดมารูยูยังเป็นแหล่งรวมรูปแบบการดีไซน์ สเปซ และไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างคนเมือง สิ่งก่อสร้าง และต้นไม้ใหญ่ และหนึ่งในนั้นคือ The Cafe by Aman ซึ่งถูกออกแบบและตกแต่งให้เรียบง่าย โดยเห็นทิวทัศน์ที่เขียวขจีเต็มไปด้วยป่าไม้ ขนาด 3,600 ตารางเมตร ใจกลางกรุงโตเกียว เปรียบเสมือน forest park in the city

โครงการ LIFE สาทร เซียร์รา

ส่วน BIO NET Initiative ถือเป็นคอนเซ็ปต์ที่ต่อยอดมาจากปรัชญา BIODIVERSITY เพื่อคงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดย MEC ร่วมกับหลายภาคส่วนด้วยการลงพื้นที่ศึกษาทุกตารางเมตรของโครงการ เพื่อหาวิธีในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศให้เกิดความสมดุลอย่างยั่งยืน และตั้งแต่เปิดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน BIO NET Initiative ถูกนำไปขยายผลในคอนโดมิเนียมแบรนด์ The Parkhouse อีกกว่า 150 โครงการ

เพราะ MEC ต้องการ The Parkhouse ทุก ๆ โครงการกลายเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศของธรรมชาติ เสมือนเป็นที่พักที่อุดมสมบูรณ์ให้กับสิ่งมีชีวิตโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นนก ผีเสื้อ หรือดอกไม้ ต้นหญ้า เข้ามาพักอาศัย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ธรรมชาติเจริญเติบโตอย่างสมดุล

ขณะที่อิซูมิ ปาร์ค ทาวน์ เมืองที่สมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ คนคุณภาพ และธุรกิจครบวงจร ซึ่งก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2490 โดยมุ่งหวังให้พื้นที่แห่งนี้เป็นเมืองที่คนและธรรมชาติอยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยการบริหารจัดการเมืองภายใต้ข้อตกลงร่วมกันของผู้ที่อยู่อาศัย โดยมีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เมืองแห่งนี้สามารถขับเคลื่อนและเติบโตไปได้ ด้วยการเน้นแก่ส่วนรวม เคารพซึ่งกันและกัน

อิซูมิ ปาร์ค ทาวน์

ไม่เพียงเท่านี้ อิซูมิ ปาร์ค ทาวน์ยังเป็นพื้นที่ที่ครอบคลุมทุกกิจกรรมของทุกชีวิตในเมือง ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย พื้นที่สำหรับการศึกษา การทำอุตสาหกรรม การทำธุรกิจ การพักผ่อนทั้งสำหรับครอบครัวตั้งแต่วัยหนุ่มสาวไปจนถึงผู้สูงอายุ ที่สำคัญยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศทั่วโลก

ปัจจุบันอิซูมิ ปาร์ค ทาวน์ มีประชากรราว 25,000 คน โดยเมืองถูกออกแบบอย่างเป็นระบบและเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากมาย ซึ่งแบ่งสัดส่วนออกเป็น 4 โซนสำคัญ ได้แก่ 1) พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบถนนให้สามารถใช้ประโยชน์ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน และผู้อยู่อาศัยต้องรักษาพื้นที่สีเขียวให้มีอยู่อย่างน้อย 30% ของพื้นที่ทั้งหมด และต้องจัดให้มีพื้นที่สำหรับส่วนรวมเพื่อสนับสนุนให้เกิดการทำกิจกรรมร่วมกัน และมีการสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน

อิซูมิ ปาร์ค ทาวน์

2) พื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียน การพบปะสังสรรค์ สถานที่ช็อปปิ้ง

3) พื้นที่สำหรับการพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ

และ 4) แหล่งธุรกิจสำคัญของเมือง ซึ่งรวมถึงเขตโรงงาน เขตสำนักงานต่าง ๆ

ถึงตรงนี้ “วิทการ” กล่าวว่า จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในมิติต่าง ๆ ระหว่าง MEC และเอพี ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา จนเป็นที่มาของโปรเจ็กต์ต้นแบบแห่งการอยู่อาศัยแนวตั้งที่ยั่งยืนและสมดุล ด้วยแนวคิดป่าในเมือง (rorest park in the city) ในโครงการ LIFE สาทร เซียร์รา ที่ทำให้พื้นที่ส่วนกลางกว่า 8,400 ตารางเมตรเป็นหุบเขาต้นไม้กลางเมืองที่ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด

“โดยไฮไลต์สำคัญคือการออกแบบภูมิทัศน์ด้านหน้าให้เป็นเหมือนหุบเขาต้นไม้ไล่ระดับ ผสมผสานการออกแบบ hiking trail ทางเดินป่าจำลองรายล้อมด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด พร้อมด้วย serene pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ยาวกว่า 100 เมตรในรูปทรงที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ”

“อีกทั้งชั้น 40 ซึ่งเป็นส่วนบนสุดของอาคาร ยังออกแบบ panoramic sky lounge ให้เป็นกล่องแก้วใสขนาดใหญ่แวดล้อมด้วยพื้นที่ป่าที่สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก The Cafe by Aman ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดทุกมุมมองรับวิวสีเขียวและขอบฟ้ามหานครกรุงเทพฯอีกด้วย”