หัวเว่ย พัฒนาหลักสูตรวิชาชีพ ป้อนแรงงานไอซีที 700,000 คนทั่วโลก

หัวเว่ยพัฒนาหลักสูตรประกาศนียบัตรมาตรฐานวิชาชีพ Huawei Certification ครอบคลุมเทคนิค 22 สาขา ป้อนแรงงานเข้าสู่อุตสาหกรรมไอซีทีกว่า 700,000 คนทั่วโลก

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ส์ จำกัด ผู้เดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาแรงงานด้านไอซีที ล่าสุดเปิดตัวโครงการประกาศนียบัตรมาตรฐานวิชาชีพด้านไอซีทีระดับเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2020 (Huawei Asia Pacific ICT Certification Program 2020) เพื่อฝึกอบรมนิสิตนักศึกษาและบุคลากรด้านไอซีทีทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจระดับโลกของบริษัทในการ

• ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
• รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
• “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

หัวเว่ยเปิดเผยว่า ได้พัฒนาหลักสูตรประกาศนียบัตรมาตรฐานวิชาชีพด้านไอซีทีที่มีชื่อว่า Huawei Certification โดยเป็นประกาศนียบัตรมาตรฐานด้านเทคนิคที่ครอบคลุมการสอบรับรองความรู้ถึง 100 หัวข้อ และเทคนิค 22 สาขา ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งคอร์สและประกาศนียบัตรต่าง ๆ ครอบคลุมสาขาเทคนิคสำคัญทั้งหมดของอุตสาหกรรมไอซีที เช่น บิ๊กดาต้า, คลาวด์คอมพิวติ้ง, LTE, 5G, การเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านการทดสอบได้เร็วที่สุดของแต่ละระดับ จะมีโอกาสได้รับรางวัลจากหัวเว่ย โดยเปิดให้ลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมแล้วถึง 1,885 คนจากทั่วทั้งภูมิภาค และคาดว่าในราวปี 2566 หัวเว่ยจะสามารถป้อนแรงงานที่ผ่านการฝึกอบรมเข้าสู่อุตสาหกรรมไอซีทีได้กว่า 700,000 คนทั่วโลก

ภายใต้ยุทธศาสตร์ระยะยาวในการสร้างระบบนิเวศด้านบุคลากรไอซีที หัวเว่ยมุ่งมั่นพัฒนาโปรแกรมการเรียนการสอนด้านไอซีทีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการจัดการแข่งขัน Huawei ICT Competition, หัวเว่ย อะเคเดมี่, และโครงการ Learn ON

ถึงแม้ว่าจะมีความท้าทายหลากหลายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่การแข่งขัน Huawei ICT Competition ประจำปี 2020 มีนักศึกษาจากสถาบันระดับอุดมศึกษากว่า 2,000 แห่งใน 70 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 150,000 คน โดยการแข่งขันระดับภูมิภาคและรอบชิงชนะเลิศระดับโลกปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคม และ 30 ตุลาคม

หัวเว่ยเชื่อมั่นว่าความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทในการส่งเสริมการพัฒนาคน และช่วยเติมเต็มตลาดแรงงานด้านไอซีทีได้