
1 พ.ค. วันแรงงาน นายกฯ และ รมว.แรงงาน ส่งสารถึงผู้ใช้แรงงานทุกคน ว่าเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงแก่เศรษฐกิจประเทศ พร้อมทั้งสรุปรายละเอียดโครงการต่าง ๆ งานเพื่อแรงงาน รวมถึงการปรับปรุงเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกันตน
วันนี้ (1 พ.ค. 2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2564 และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.แรงงาน) ตัวแทนกระทรวงแรงงาน ร่วมส่งสารขอบคุณผู้ใช้แรงงาน
- เปิดลงทะเบียนแก้หนี้ 1 ธ.ค.นี้ เครดิตบูโรห่วงกู้ซื้อ “รถ-บ้าน” ค้างจ่ายพุ่ง
- จับตาธุรกิจเลิกจ้าง ปิดกิจการ ส่งออกสะดุด-บริษัทยักษ์ย้ายฐาน
- วันหยุดเดือนธันวาคม 2566 เช็กวันหยุด วันสำคัญ วันหยุดยาว-หยุดต่อเนื่อง
กินร้อน ช้อนเรา หมั่นล้างมือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขอส่งความรัก และความปรารถนาดีไปยังพี่น้องแรงงานไทยทุกท่าน ที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนตลอดมา
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีนี้ต้องงดจัดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติอีกปีหนึ่ง ด้วยรัฐบาลมีความห่วงใยในความปลอดภัย ด้านสุขภาพอนามัยของพี่น้องแรงงาน และประชาชนทุกคน และไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างโอกาสทางการค้า การลงทุน และการมีงานทำของพี่น้องประชาชน ทั้งแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ และแรงงานกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจในขณะนี้
ที่ผ่านมาได้มีมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ได้แก่ โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน รวมถึงขยายเวลาลดหย่อนส่งเงินสมทบประกันสังคม ลดค่าน้ำและค่าไฟ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และมาตรการอื่น ๆ เพื่อให้พี่น้องแรงงานทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ และพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเข้มแข็งในเร็ววัน พร้อมกันนี้ยังให้การสนับสนุนด้านสวัสดิการ การคุ้มครองแรงงาน ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล และการพัฒนาความสามารถและศักยภาพแรงงานอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องต่อความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป
“ขอให้ดูแลรักษาสุขภาพ ดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (new normal) และปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ด้วยการ กินร้อน ช้อนเรา หมั่นล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง และพบแพทย์เมื่อมีอาการ ซึ่งจะช่วยทุกคนปลอดการติดเชื้อโรคและเป็นการลดการแพร่ระบาดของโรค”
ของขวัญวันแรงงานแห่งชาติปี 64
ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตัวแทนกระทรวงแรงงาน ส่งสารถึงผู้ใช้แรงงานเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2564 ขอบคุณพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจและสังคมไทยมาโดยตลอด ทั้งที่เป็นแรงงานทั้งในและต่างประเทศ
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในปีนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อภาคแรงงาน กระทรวงแรงงานจึงได้ผลักดันและดำเนินมาตรการโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาแรงงานทุกกลุ่ม เช่น โครงการ ม.33 เรารักกัน และโครงการแรงงาน…เราสู้ด้วยกัน เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้ขยายออกไปในวงกว้าง จนทำให้เกิดความเสียหายแก่ทุกภาคส่วน นอกจากนี้ ได้เร่งรัดการดำเนินการเพื่อคุ้มครองแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายโดยเร็ว”
ทั้งนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้กำชับให้ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ดูแลช่วยเหลือผู้ประกันตนในระบบกองทุนประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ให้พ้นวิกฤติการณ์ไปให้ได้
โดยในวันแรงงานแห่งชาติปี 2564 กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการทำงานเชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน มีปรับปรุงเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกันตน ดังนี้
- ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร ให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี ให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มจากเดิม 600 บาท เป็น 800 บาทต่อคน โดยจ่ายคราวละไม่เกิน 3 คนเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตร
- กรณีคลอดบุตรปรับเพิ่มเป็น 15,000 บาท (เดิม 13,000 บาท) ปรับเพิ่มค่าฝากครรภ์ เป็น 5 ครั้ง รวมเป็น 1,500 บาท (เดิม 3 ครั้ง 1,000 บาท) ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมเรื่องหลักเกณฑ์ และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน พ.ศ.2563 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564
- ด้านการส่งเสริมสุขภาพ สำนักงานประกันสังคมได้ออกประกาศคณะกรรมการการแพทย์ เพิ่มสิทธิผู้ประกันตนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปให้มีสิทธิได้รับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ 1 พ.ค. – 31 ส.ค. ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้เป็นประจำทุกปี
- กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย หน่วยงานของรัฐสั่งปิดพื้นที่เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ซึ่งมีผลกระทบให้ลูกจ้าง/ผู้ประกันตนไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น โดยให้ลูกจ้างซึ่งไม่ได้รับค่าจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างโดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐสั่งปิดพื้นที่ ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 1 ปี ปฏิทินมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยรวมกันไม่เกิน 90 วัน
- ปรับลดเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เหลือร้อยละ 3 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ลดลงเหลือ 278 บาท ในเดือนมกราคม 2564 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้าง และผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
- คณะรัฐมนตรีมีมติปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมให้คงการลดเงินสมทบนายจ้าง เหลือร้อยละ 3 ผู้ประกันตนมาตรา 33 ลดเงินสมทบเหลือร้อยละ 0.5 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ลดเหลือ 38 บาท (จากที่จ่ายเดือนละ 432 บาท) เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่งวดเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่
- คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศ กระทรวงแรงงาน เรื่องขยายกำหนดเวลาแสดงความจำนงเป็นผู้ประกันตน และการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้ผู้ประกันตนได้มีโอกาสกลับเข้าสู่ระบบประกันสังคม และได้รับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่อง โดยเห็นชอบให้กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ได้เสนอให้มีการขยายระยะเวลา รับสมัครผู้ประกันตน 33 ที่สิ้นสภาพแล้ว 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 หากประสงค์อยู่ในระบบประกันสังคมต่อไป สามารถแสดงความจำนงเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ภายใน 30 มิถุนายน 2564
- ขยายกำหนดเวลาให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม สำหรับเงินสมทบที่ต้องนำส่งประจำงวดเดือนมีนาคม 2563 ถึงงวดเดือนพฤษภาคม 2564 ให้นำส่งภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2564
- โครงการ ม.33 เรารักกันโดยรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิคนละ 4,000 บาท ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการ ในร้านธงฟ้าที่ใช้ Application “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นี้
- โครงการตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตนแบบบูรณาการ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ภายใต้โครงการ“แรงงาน…เราสู้ด้วยกัน” เป้าหมายเพื่อดูแลผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 โดยเพิ่มช่องทางบริการตรวจเชื้อให้กับผู้ประกันตนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในพื้นที่ในกรุงเทพฯ และขยายไปสู่จังหวัด นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี เชียงใหม่ และสมุทรปราการ เพื่อลดปัญหาความแออัดการตรวจคัดกรองในโรงพยาบาล และให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า การมอบของขวัญให้กับผู้ใช้แรงงานในปี 2564 นี้ กระทรวงแรงงานมีความมุ่งมั่นให้แรงงานมีหลักประกันที่มั่นคง เพื่อให้ผู้ประกันตนมีความมั่นใจว่ากระทรวงแรงงานจะดูแลผู้ประกันตน และพร้อมพัฒนางานด้านประกันสังคมให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานปรัชญาการพัฒนาแบบยั่งยืนเพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ประกันตนต่อไป