1 พ.ค. วันแรงงาน นายกฯ – รมว.แรงงาน ส่งสารถึงผู้ใช้แรงงาน

1 พ.ค. วันแรงงาน นายกฯ และ รมว.แรงงาน ส่งสารถึงผู้ใช้แรงงานทุกคน ว่าเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงแก่เศรษฐกิจประเทศ พร้อมทั้งสรุปรายละเอียดโครงการต่าง ๆ งานเพื่อแรงงาน รวมถึงการปรับปรุงเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกันตน

วันนี้ (1 พ.ค. 2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2564 และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.แรงงาน) ตัวแทนกระทรวงแรงงาน ร่วมส่งสารขอบคุณผู้ใช้แรงงาน

กินร้อน ช้อนเรา หมั่นล้างมือ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขอส่งความรัก และความปรารถนาดีไปยังพี่น้องแรงงานไทยทุกท่าน ที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนตลอดมา

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีนี้ต้องงดจัดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติอีกปีหนึ่ง ด้วยรัฐบาลมีความห่วงใยในความปลอดภัย ด้านสุขภาพอนามัยของพี่น้องแรงงาน และประชาชนทุกคน และไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างโอกาสทางการค้า การลงทุน และการมีงานทำของพี่น้องประชาชน ทั้งแรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ และแรงงานกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจในขณะนี้

ที่ผ่านมาได้มีมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ได้แก่ โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน รวมถึงขยายเวลาลดหย่อนส่งเงินสมทบประกันสังคม ลดค่าน้ำและค่าไฟ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และมาตรการอื่น ๆ เพื่อให้พี่น้องแรงงานทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ และพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเข้มแข็งในเร็ววัน พร้อมกันนี้ยังให้การสนับสนุนด้านสวัสดิการ การคุ้มครองแรงงาน ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล และการพัฒนาความสามารถและศักยภาพแรงงานอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องต่อความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป

“ขอให้ดูแลรักษาสุขภาพ ดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (new normal) และปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ด้วยการ กินร้อน ช้อนเรา หมั่นล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง และพบแพทย์เมื่อมีอาการ ซึ่งจะช่วยทุกคนปลอดการติดเชื้อโรคและเป็นการลดการแพร่ระบาดของโรค”

ของขวัญวันแรงงานแห่งชาติปี 64

ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตัวแทนกระทรวงแรงงาน ส่งสารถึงผู้ใช้แรงงานเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2564 ขอบคุณพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจและสังคมไทยมาโดยตลอด ทั้งที่เป็นแรงงานทั้งในและต่างประเทศ

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในปีนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อภาคแรงงาน กระทรวงแรงงานจึงได้ผลักดันและดำเนินมาตรการโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาแรงงานทุกกลุ่ม เช่น โครงการ ม.33 เรารักกัน และโครงการแรงงาน…เราสู้ด้วยกัน เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้ขยายออกไปในวงกว้าง จนทำให้เกิดความเสียหายแก่ทุกภาคส่วน นอกจากนี้ ได้เร่งรัดการดำเนินการเพื่อคุ้มครองแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายโดยเร็ว”

ทั้งนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้กำชับให้ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ดูแลช่วยเหลือผู้ประกันตนในระบบกองทุนประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ให้พ้นวิกฤติการณ์ไปให้ได้

โดยในวันแรงงานแห่งชาติปี 2564 กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการทำงานเชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน มีปรับปรุงเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกันตน ดังนี้

  • ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร ให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี ให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มจากเดิม 600 บาท เป็น 800 บาทต่อคน โดยจ่ายคราวละไม่เกิน 3 คนเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตร
  • กรณีคลอดบุตรปรับเพิ่มเป็น 15,000 บาท (เดิม 13,000 บาท) ปรับเพิ่มค่าฝากครรภ์ เป็น 5 ครั้ง รวมเป็น 1,500 บาท (เดิม 3 ครั้ง 1,000 บาท) ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมเรื่องหลักเกณฑ์ และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน พ.ศ.2563 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564
  • ด้านการส่งเสริมสุขภาพ สำนักงานประกันสังคมได้ออกประกาศคณะกรรมการการแพทย์ เพิ่มสิทธิผู้ประกันตนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปให้มีสิทธิได้รับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ 1 พ.ค. – 31 ส.ค. ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้เป็นประจำทุกปี
  • กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย หน่วยงานของรัฐสั่งปิดพื้นที่เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ซึ่งมีผลกระทบให้ลูกจ้าง/ผู้ประกันตนไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น โดยให้ลูกจ้างซึ่งไม่ได้รับค่าจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างโดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐสั่งปิดพื้นที่ ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 1 ปี ปฏิทินมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยรวมกันไม่เกิน 90 วัน
  • ปรับลดเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เหลือร้อยละ 3 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ลดลงเหลือ 278 บาท ในเดือนมกราคม 2564 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้าง และผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
  • คณะรัฐมนตรีมีมติปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมให้คงการลดเงินสมทบนายจ้าง เหลือร้อยละ 3 ผู้ประกันตนมาตรา 33 ลดเงินสมทบเหลือร้อยละ 0.5 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ลดเหลือ 38 บาท (จากที่จ่ายเดือนละ 432 บาท) เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่งวดเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่
  • คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศ กระทรวงแรงงาน เรื่องขยายกำหนดเวลาแสดงความจำนงเป็นผู้ประกันตน และการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้ผู้ประกันตนได้มีโอกาสกลับเข้าสู่ระบบประกันสังคม และได้รับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่อง โดยเห็นชอบให้กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ได้เสนอให้มีการขยายระยะเวลา รับสมัครผู้ประกันตน 33 ที่สิ้นสภาพแล้ว 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 หากประสงค์อยู่ในระบบประกันสังคมต่อไป สามารถแสดงความจำนงเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ภายใน 30 มิถุนายน 2564
  • ขยายกำหนดเวลาให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม สำหรับเงินสมทบที่ต้องนำส่งประจำงวดเดือนมีนาคม 2563 ถึงงวดเดือนพฤษภาคม 2564 ให้นำส่งภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2564
  • โครงการ ม.33 เรารักกันโดยรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิคนละ 4,000 บาท ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการ ในร้านธงฟ้าที่ใช้ Application “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นี้
  • โครงการตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตนแบบบูรณาการ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ภายใต้โครงการ“แรงงาน…เราสู้ด้วยกัน” เป้าหมายเพื่อดูแลผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 โดยเพิ่มช่องทางบริการตรวจเชื้อให้กับผู้ประกันตนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในพื้นที่ในกรุงเทพฯ และขยายไปสู่จังหวัด นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี เชียงใหม่ และสมุทรปราการ เพื่อลดปัญหาความแออัดการตรวจคัดกรองในโรงพยาบาล และให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว

นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า การมอบของขวัญให้กับผู้ใช้แรงงานในปี 2564 นี้ กระทรวงแรงงานมีความมุ่งมั่นให้แรงงานมีหลักประกันที่มั่นคง เพื่อให้ผู้ประกันตนมีความมั่นใจว่ากระทรวงแรงงานจะดูแลผู้ประกันตน และพร้อมพัฒนางานด้านประกันสังคมให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานปรัชญาการพัฒนาแบบยั่งยืนเพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ประกันตนต่อไป