“ซีเค พาวเวอร์” บนเวทีระดับโลก GCNT Forum สู่สังคมภูมิปัญญา

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์ : CKP) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่งของภูมิภาค ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนในงาน “GCNT Forum 2023 : Partnership for Human Capital 5.0-Towards Sustainable Intelligence รวมพลังพันธมิตรเพื่อพัฒนาคนยุค 5.0 สู่สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน” จัดโดยสมาชิกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT หรือ United Nation Global Compact Network Thailand) ร่วมกับสหประชาชาติในประเทศไทย

งานนี้ ซีเค พาวเวอร์ ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นการผลักดันชุมชนรอบโรงงานไฟฟ้าและบริเวณใกล้เคียงให้เติบโตไปพร้อมองค์กร ผ่านการพัฒนาทักษะและต่อยอดนวัตกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ “การสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับคนในชุมชน” เวทีเสวนาหัวข้อ “ปั้นคนให้ก้าวไปข้างหน้า และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ในงานเสวนาดังกล่าว ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร

ตวงพร บุณยะสาระนันท์
ตวงพร บุณยะสาระนันท์

ตวงพร บุณยะสาระนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการสื่อสารและการบริหารความยั่งยืนองค์กร บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทไม่เพียงใช้เทคโนโลยีชั้นนำในการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น

แต่ยังสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชนบริเวณรอบโรงไฟฟ้าและบริเวณใกล้เคียง ให้เติบโต มีอาชีพ และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ผ่าน 2 กลยุทธ์สำคัญคือ การสร้างความเข้มแข็งทางสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่ชุมชน และการเสริมสร้างคุณค่าแก่สังคมและชุมชน ซึ่งเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนสู่สังคมแห่งภูมิปัญญา

ทั้งนี้ ซีเค พาวเวอร์ ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนผ่าน 3 แนวคิด ได้แก่

1.จัดสรรที่ดินสำหรับสร้างที่พักอาศัยและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้คนในชุมชนได้เข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ศูนย์อนามัย, โรงเรียน, ศาลากลาง และตลาด

2.พัฒนาศักยภาพ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ที่ยั่งยืนของคนในชุมชน เช่น การต่อยอดและเพิ่มประสิทธิภาพของอาชีพ และผลิตภัณฑ์ในชุมชน สนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น

3.ดูแลระบบสาธารณสุขให้กับชุมชน ยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขให้กับชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เพื่อวัดการพัฒนาได้อย่างเป็นรูปธรรม

“สำหรับกลยุทธ์ที่สองเราได้นำขีดความสามารถทางด้านวิศวกรรมพลังงานสะอาดมาเติมเต็มชุมชนด้วยตามกรอบการสร้างคุณค่าสู่สังคม หรือ CSR Strategy Framework เป็นเวลา 5 ปี (2565-2569) ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ สังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ”

โดยมีพลังงานสะอาดสูงถึง 57,430 วัตต์ พร้อมสร้างจิตสํานึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ Grow Green นำขยะมาสร้างคุณค่า ปลูกป่า และการพัฒนาโรงไฟฟ้าสีเขียว พร้อมผลักดันนวัตกรรมจากรุ่นสู่รุ่น และต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตามเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ

รวมถึงการเพิ่มโอกาสให้เด็กนักเรียน 1,553 คนได้เข้าถึงการศึกษา ส่งต่อองค์ความรู้เรื่องพลังงานหมุนเวียนให้กับเด็กในไทยและลาว 3,700 คน การเพิ่มมูลค่าให้กับขยะ หรือ “Waste to Value” เปลี่ยนขยะอาหารเป็นวัสดุปรับปรุงดิน

ซึ่งส่งเสริมการปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชน เยาวชน พนักงาน จำนวน 271 คน การสร้างอาชีพและพัฒนาคุณภาพให้กับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น 2 หมู่บ้านให้มีศักยภาพพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจยุค 5.0

บนเวที GCNT Forum 2023 ได้ประกาศเจตนารมณ์ส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างน้อย 1 ล้านคน ใน 133 องค์กรสมาชิกสมาคม ภายในปี ค.ศ. 2030 เตรียมตั้ง Sustainable Intelligence Youth Club เพิ่มศักยภาพคนรุ่นใหม่ ในปี ค.ศ. 2024 ผ่านการเรียนรู้โดยตรงจากภาคธุรกิจและพันธมิตรสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาที่แท้จริง