เศรษฐกิจในประเทศ

พาณิชย์จับตาไข่ไก่ขยับขึ้นไม่มีสาเหตุ

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวภายหลังสำรวจราคาสินค้าอุปโภคบริโภคตลาดพรานนก ว่า ภาพรวมราคาผักผลไม้ปกติขึ้นลงตามภาวะ ส่วนที่ขึ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ได้แก่ เนื้อสุกร ผู้ค้าชี้แจงว่าราคาสุกรต้นทางปรับขึ้นประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนผู้ค้าเขียงยังไม่ได้ปรับขึ้นตามต้นทุนโดยขายเฉลี่ย 120-130 บาทต่อกิโลกรัม คาดว่าราคาที่ปรับตัวเล็กน้อยน่าจะมาจากใกล้ช่วงสารทจีนอาจจะทำให้ราคาเนื้อสุกร ไก่ ปรับขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ผิดปกติ รวมถึงไข่ไก่ปรับขึ้น 10 สตางค์ต่อฟอง โดยยังไม่ทราบสาเหตุแท้จริง เพราะจากการสอบถามแม่ค้าระบุว่าผู้ค้าส่งขึ้นราคาเฉลี่ย 10 สตางค์ต่อฟอง โดยไม่มีสาเหตุว่าขึ้นเพราะอะไร ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ เช่น เบอร์ 0 ฟองละ 3.70 บาท เบอร์ 1 ฟองละ3.20 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 3 บาท เบอร์ 3 ฟองละ 2.80 บาท ขณะที่ไข่เป็ดเฉลี่ยคงที่นาน 6 เดือนแล้ว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเฝ้าติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้า

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากรณีที่สถาบันจัดทำโพลต่าง ๆ ทำการสำรวจประชาชนเกี่ยวกับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งอาหารสดและห้างสรรพสินค้า ต่างยืนยันว่าค่าครองชีพโดยรวมโดยเฉพาะราคาสินค้ายังแพง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยังแปลกใจจากการที่ผู้บริหารกระทรวงทั้งส่วนกลางและภูมิภาคออกสำรวจและติดตามราคาสินค้าประจำ ราคาโดยรวมปรับขึ้นลงตามภาวะปกติ ดังนั้น การที่โพลออกมาว่าราคาสินค้าแพงต่อไปคงต้องนำมาหารือกับสถาบันจัดทำโพล เพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุ รวมถึงคำถาม เพื่อจะได้ให้ข้อมูลสำรวจตรงตามความจริง สำหรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสายตาผู้บริโภคที่มองว่าแพงอาจเป็นเพราะซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้ามากขึ้นที่เป็นสินค้าสำเร็จรูป ขณะที่สินค้าตลาดสดราคายังปกติขึ้นลงตามภาวะ

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ในอนาคต 3 กรมหลัก ได้แก่ กรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุริจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะร่วมกันผลักดันแนวทางดูแลราคาสินค้า การส่งเสริมสินค้า และหาทางเลือกให้ผู้บริโภคผ่านโครงการฉลาดซื้อประหยัดใช้ หรือโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชนโดยเฉพาะห้างต่าง ๆ หรือโครงการหนูณิชย์ ที่พยายามให้ราคาสินค้าสำเร็จรูปไม่เกิน 35 บาท ตลาดต้องชมสินค้าคุณภาพดีราคาไม่แพงและเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน ซึ่งเร็ว ๆ นี้คงจะขอความร่วมมือสถาบันทำโพลกำหนดทิศทางจัดหาคำตอบ เพื่อจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย