ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลุ้นจ่ายส่วนต่าง โครงการประกันรายได้ ปี 2565/2566

ข้าวโพด

คณะอนุกรรมการกำกับดูแลฯ เตรียมประชุมหารือกำหนดราคาส่วนต่าง โครงการประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปลายเดือนมีนาคม 2566 นี้ ขณะที่ราคาข้าวโพดอยู่ที่ 12.45 บาทต่อกิโลกรัม

วันที่ 20 มีนาคม 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในปลายเดือนมีนาคม 2566 นี้ คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมจะมีการหารือเพื่อกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/2566

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/2566 วงเงิน 716.10 ล้านบาท และมาตรการคู่ขนาน ได้แก่ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2565/2566 วงเงินสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/2566 นี้ ยังคงยึดหลักการและเงื่อนไขเดิม โดยประกันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ความชื้น 14.5% ในราคา 8.5 บาทต่อกิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ และไม่ซ้ำแปลง

ราคาข้าวโพดในตลาด 11-12 บาท/กก. สูงกว่าราคาประกันรายได้

สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและแจ้งเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565-31 พฤษภาคม 2566 ส่วนระยะเวลาโครงการ เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2565-30 เมษายน 2567 และมีระยะเวลาการจ่ายเงิน รวม 12 งวด ตั้งแต่ 20 พฤศจิกายน 2565-31 ตุลาคม 2566

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565-มีนาคม 2566 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีราคาสูง 11-12 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าราคาประกัน 8.5 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย 5 งวด ตามช่วงเวลาดังกล่าว

โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2565/2566 วงเงินสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนสินเชื่อแก่กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร

โดยปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 4 ต่อปี ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ส่วนที่เหลือร้อยละ 3 ต่อปี รัฐบาลเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ยให้ มีระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 12 เดือน ส่วนระยะเวลาของโครงการ เริ่มตั้งแต่วันที่ ครม. อนุมัติ-30 มิถุนายน 2567 ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ ตั้งแต่วันที่ ครม. อนุมัติ-31 พฤษภาคม 2566

ประกันรายได้ข้าวโพด 12 งวด มีลุ้นไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง

สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวโพด ราคาปรับลดลงและราคายังคงทรงตัว โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ราคาปรับลงจากหาบละ 774 บาท หรือ 12.90 บาทต่อกิโลกรัม เป็นหาบละ 747 บาท หรือ  12.45 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากผลผลิตออกต่อเนื่อง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้น 30% ที่เกษตรกรขายได้ทรงตัวที่ 9.00 บาทต่อกิโลกรัม

ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 17 มีนาคม 2566 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2566 ราคาอยู่ที่ 632.60 เซนต์/บุชเชล (เทียบเท่า 8.528 บาทต่อกิโลกรัม ณ THB34.244/USD) เป็นราคาที่ทรงตัว

แม้รายงานความคืบหน้าการเก็บเกี่ยวข้าวโพดรุ่นที่ 1 ของประเทศบราซิลอยู่ที่ 42% เร็วกว่าค่าเฉลี่ย แต่ความคืบหน้าเพาะปลูกข้าวโพดรุ่นที่ 2 ยังคงล่าช้ากว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งอยู่ที่ 74% เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 81%

ขณะที่ข้าวโพดอาร์เจนตินาที่ถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก ล่าสุดเหลือเพียง 5% ลดลงจาก 6% ในสัปดาห์ก่อนหน้า ด้านตลาดยังคงติดตามสถานการณ์การส่งออกธัญพืชของประเทศยูเครนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะครบอายุสัญญาในวันที่ 18 มีนาคม 2566 หรือวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยรัสเซียต้องการต่อสัญญาในรอบนี้เพียง 60 วัน จากปกติการต่อสัญญาจะอยู่ที่ครั้งละ 120 วัน ส่วนฝั่งยูเครนยังคงต้องการต่อสัญญาที่ 120 วันเช่นเดิม

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังคงราคาสูง 12.45-12.90 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าสูงกว่าราคาที่มีประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น การประชุมคณะอนุกรรมการคาดว่าที่ประชุมจะมีผลสรุปไม่จ่ายส่วนต่างให้กับผู้ปลูกข้าวโพด