เศรษฐกิจโลกพ่นพิษ ส่งออกอัญมณี-ทองคำไทย 4 เดือน หดตัว 18.01%

อัญมณี ตลาดอัญมณี ส่งออก
Photo by Linus Mimietz on Unsplash

จีไอทีเผยยอดส่งออกอัญมณี 4 เดือน ไม่รวมทองคำเพิ่ม 5.35% หากรวมทองคำลด 18.01% เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอ จับตาสหรัฐ ยูโรโซน มีปัญหาการเงิน จีนฟื้นตัวช้า กดดันการค้าครึ่งปีหลัง แนะผู้ประกอบการบุกตะวันออกกลาง ใช้ออนไลน์ทำตลาด

วันที่ 12 มิถุนายน 2566 นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เดือนเมษายน 2566 มีมูลค่า 450.81 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 28.85% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งออกภาพรวมที่ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญหลายประเทศชะลอตัว

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาภาวะเงินเฟ้อในบางประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง และผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรป ทำให้มีความต้องการสินค้าในกลุ่มนี้ลดลง แต่หากรวมทองคำมีมูลค่า 1,265.56 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.29% และรวม 4 เดือน ของปี 2566 (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออกไม่รวมทองคำมีมูลค่า 2,667.22 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 5.35% และรวมทองคำมูลค่า 5,390.94 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 18.01%

นายสุเมธกล่าวอีกว่า ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับจากนี้ไป ต้องจับตาเศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณชะลอตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 และครึ่งปีหลังอาจฟื้นตัวได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐ มีวิกฤตสถาบันการเงิน อัตราว่างงานเพิ่ม ทำให้การปล่อยสินเชื่อมีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้น และกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนยูโรโซนได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง และจีนที่มีการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของการซื้อขายอัญมณีและเครื่องประดับ

สุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย

ทั้งนี้ แนวทางในการปรับตัว ผู้ประกอบการควรหาโอกาสกระจายตลาดให้มีความหลากหลาย ลดการพึ่งพาตลาดหลักเพียงแห่งเดียวมากเกินไป โดยตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจในการทำตลาด ทั้งยังต้องรักษาแนวทางการทำตลาดออนไลน์ไว้ให้ต่อเนื่อง เพราะธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังสามารถเติบโตได้เพิ่มขึ้น โดยแนวทางการทำตลาดด้วยกลยุทธ์ Go Green Go Fast และ Go First คือเน้นการรักษ์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีกลยุทธ์ที่รวดเร็วฉับไวในการตอบโจทย์ผู้บริโภค และเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ หรือมีผลิตภัณฑ์ในไลน์สินค้าใหม่ ๆ ก่อนคู่แข่ง จะเป็นแนวทางที่เข้ากับตลาดในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี

สำหรับตลาดส่งออกสำคัญ พบว่ามีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง โดยสหรัฐลดลง 10.58% เยอรมนีลด 20.53% สหราชอาณาจักรลด 20.45% เบลเยียมลด 16.00% อินเดียลด 69.94% ญี่ปุ่นลด 3.93% แต่อิตาลีเพิ่ม 61.47% ฮ่องกงเพิ่ม 169.19% สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่ม 43.62%

ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ มีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง โดยเครื่องประดับทองเพิ่ม 48.50% เครื่องประดับแพลทินัมเพิ่ม 24.37% พลอยก้อนเพิ่ม 28.26% พลอยเนื้อแข็งเจียระไนเพิ่ม 89.92% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไนเพิ่ม 124.46% ส่วนเครื่องประดับเงินลด 21.13% เพชรก้อนลด 19.74% เพชรเจียระไนลด 35.56% เครื่องประดับเทียมลด 14.77% เศษหรือของที่ใช้ไม่ได้ทำด้วยโลหะมีค่าลด 33.55% และทองคำลด 32.64%